ปาตี้ลิสต์

เมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา ...ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศจะไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

กรณีที่รัฐบาลไม่นำการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งเข้าพิจารณาในที่ประชุม ครม.ในวันที่ 16 พ.ค. 2549 โดยอ้างว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งยังไม่ได้มีการรายงานผลการประชุมและมติเกี่ยวกับกำหนดวันเลือกตั้งให้กับรัฐบาลทราบอย่างเป็นทางการ

จากการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้งกับพรรคการเมือง 20 พรรค เสียงส่วนใหญ่คือ 13 พรรค(พรรคไทยรักไทยงดออกเสียง) มีมติให้มีการเลือกตั้งวันที่ 22 ..

เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก

กรอบการพิจารณายกร่างรัฐธรรมนูญในเรื่องที่ว่าด้วยสถาบันทางการเมืองที่ยังไม่เป็นข้อยุติในหลายส่วน ทั้งเรื่องการให้มีหรือไม่มี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เกณฑ์สัดส่วน ส.ส.ต่อประชากร และการกำหนดให้มี ส.ส.แบบแบ่งเขตที่มาจากเขตพื้นที่ใหญ่ มีจำนวน 3 คนต่อเขต ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนได้ 3 เสียง หรือระบบเลือกตั้งแบบเดิมที่กำหนดให้มี ส.ส.แบบเขตเดียวเบอร์เดียว เพื่อนำไปสู่การได้มาซึ่งตัวแทนที่สะท้อนเสียงประชาชนมากที่สุด

ถึงแม้ว่า รัฐธรรมนูญฉบับ 2540 พยายามที่จะเปิดโอกาสให้ ส.ส. ที่สังกัดพรรคมีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะการไม่ต้องปฏิบัติตามมติหรือข้อบังคับของพรรคหากขัดหรือแย้งกับหลักการพื้นฐานแห่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยมีสิทธิร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยได้(มาตรา 47) แต่ในความเป็นจริงทางการเมือง หาก ส.ส. ท่านใดฝ่าฝืนมติของพรรค ย่อมถูกตรวจสอบในด้านพฤติกรรมว่าปฏิบัติตามระเบียบวินัยของพรรคหรือไม่ และโอกาสที่พรรคจะไม่ส่งลงสมัครในการเลือกตั้งสมัยหน้าก็มีสูงยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ ส.ส. เกิดความกลัวและปฏิบัติหน้าที่ราวกับหุ่นยนต์ที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง
 
ปัญหาที่เกิดขึ้น กลายเป็นประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ต้องตอบให้ชัดว่า