การเติบโตของเวียดนามส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไร?
* ภาพจาก http://www.trekkerhut.com/Last%20trip/trip14/thumbnails/IMG_0057.jpg
ในบรรดาประเทศที่มีเศรษฐกิจร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ คงต้องมีเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศเหล่านั้น ด้วยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงถึงกว่าร้อยละ 8 ทุกประเทศจึงหันมาจับตามองเวียดนาม รวมทั้งเป็นที่จับตาของประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างไทยด้วย
คนไทยหลายคนมองการเติบโตของเวียดนามอย่างวิตกว่า เวียดนามจะกลายเป็นคู่แข่งและจะแซงหน้าประเทศไทยในอนาคต บางคนอาจจะคิดไปถึงขั้นที่ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามแสดงถึงการถอยหลังลงคลองของไทย แต่คำถามที่น่าพิจารณาคือ ความวิตกดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่ และความจริงแล้วการเติบโตของเวียดนามส่งผลกระทบต่อการเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในแง่ของการเติบโตอย่างไรบ้าง
บทความนี้พยายามหาคำตอบให้แก่คำถามดังกล่าว ผมจึงพยายามใช้ข้อมูลตัวเลขต่าง ๆ ในการวิเคราะห์ เพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ทั้งนี้ผมขอแบ่งผลกระทบของการเติบโตของเวียดนามที่มีต่อการเติบโตของไทยออกเป็นสองนัย คือ ผลโดยตรงและผลโดยอ้อม
ผลกระทบโดยตรงของการเติบโตของเวียดนามต่อไทยเป็นผลจากการเป็นคู่ค้าระหว่างกัน การเติบโตของประเทศหนึ่งมีผลต่ออีกประเทศหนึ่งโดยผ่านช่องทางของการค้าระหว่างประเทศ โดยปกติหากประเทศหนึ่งมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงจะทำให้ประชาชนในประเทศนั้นมีระดับรายได้มากขึ้น ซึ่งตามมาด้วยการนำเข้าสินค้าและบริการเพื่อบริโภคมากขึ้น และในอีกแง่หนึ่งการที่เศรษฐกิจขยายตัวเกิดจากการขยายกำลังการผลิตของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบหรือเครื่องจักรเพื่อเป็นสินค้าทุนในการผลิต
ด้วยเหตุผลนี้ เมื่อประเทศหนึ่งมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงน่าจะทำให้ประเทศอื่นที่เป็นประเทศคู่ค้าส่งออกได้มากขึ้น จึงมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจมากขึ้นตามไปด้วยในทางทฤษฎี
ในบทความนี้ ผมจึงวัดผลกระทบโดยตรงของการเติบโตของเวียดนามต่อไทยจากดุลการค้าระหว่างไทยกับเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หากดุลการค้าระหว่างไทยกับเวียดนามเป็นบวกหมายความว่า การค้าระหว่างระหว่างเวียดนามกับไทยมีผลด้านบวกกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย และจะมีความหมายตรงข้ามหากดุลการค้าเป็นลบ
จากตารางที่ 1 จะเห็นว่า ประเทศไทยได้ดุลการค้าจากเวียดนามมาโดยตลอด และยิ่งไปกว่านั้น ดุลการค้าที่เป็นบวกนั้นมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อเวียดนามมีการเติบโตทางเศรษฐกิจรวดเร็ว จึงทำให้นำเข้าสินค้าจากไทยมากขึ้นด้วย
ตารางที่ 1 ดุลการค้าไทย-เวียดนาม
ปี
|
2544
|
2545
|
2546
|
2547
|
2548
|
2549
|
2550
(ม.ค.- ก.ค.)
|
อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนาม (%)
|
6.9
|
7.0
|
7.2
|
7.7
|
8.4
|
8.2
|
n.a.
|
มูลค่าการส่งออกของไทยไป
เวียดนาม (ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
|
801.28
|
947.99
|
1,262.09
|
1,877.05
|
2,363.70
|
3,079.06
|
2,010.00
|
การขยายตัวของการส่งออก (%)
|
-0.69
|
4.03
|
16.81
|
25.32
|
25.69
|
7.32
|
20.32
|
มูลค่าการนำเข้าของไทยจาก
เวียดนาม (ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
|
325.85
|
238.58
|
333.38
|
436.67
|
890.29
|
891.10
|
586.41
|
การขยายตัวของการนำเข้า (%)
|
-1.87
|
-26.78
|
39.73
|
30.98
|
103.88
|
0.09
|
12.70
|
ดุลการค้าไทย-เวียดนาม (ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
|
20,890.57
|
30,319.39
|
38,457.62
|
57,708.10
|
58,822.82
|
85,766.40
|
49,626.10
|
ที่มา: ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร
เมื่อพิจารณารายสินค้า สินค้าออกจากไทยไปเวียดนามที่สำคัญคือ น้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซธรรมชาติ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ปูนซีเมนต์ เครื่องยนต์ เครื่องจักรและชิ้นส่วน ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสินค้าทุนและวัตถุดิบสำหรับภาคอุตสาหกรรมทั้งสิ้น
จึงอาจกล่าวได้ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของเวียดนามทำให้เวียดนามต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบจากต่างประเทศอย่างมาก ประเทศไทยในฐานะหนึ่งในคู่ค้าที่สำคัญของเวียดนาม จึงได้รับอานิสงค์ให้สามารถส่งออกไปเวียดนามได้มากขึ้นด้วย
นอกจากผลกระทบทางตรงแล้ว ยังมีผลกระทบทางอ้อม ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของเวียดนามที่ไม่ได้กระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยโดยตรง แต่สามารถส่งกระทบต่อเศรษฐกิจไทยผ่านช่องทางอื่น ๆ ได้ ซึ่งในบทความนี้จะเน้นเฉพาะช่องทางการค้าระหว่างประเทศ หากการเติบโตของเวียดนามเกิดจากการที่สามารถส่งออกสินค้าได้มาก และหากไทยกับเวียดนามเป็นคู่แข่งทางการค้าระหว่างกัน การส่งออกของเวียดนามอาจจะทำให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าได้น้อยลง
แม้สินค้าบางชนิดของเวียดนามกำลังแย่งตลาดไปจากสินค้าส่งออกจากประเทศไทย โดยเฉพาะข้าว แต่หากพิจารณาข้อมูลในตารางที่ 2 จะเห็นว่าสินค้าออกที่สำคัญของไทยและเวียดนามนั้นไม่ซ้ำกัน แสดงว่าไทยและเวียดนามมีความเป็นคู่แข่งกันทางค้ากันน้อย ดังนั้นแม้การส่งออกของเวียดนามจะเติบโตเร็วเกินกว่าร้อยละ 20 ต่อปี แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมา ldquo;เบียดrdquo; การเติบโตของการส่งออกของไทย
ตารางที่ 2 สินค้าส่งออกที่สำคัญ 5 อันดับแรกของไทยและเวียดนาม ปี 2549
อันดับ
|
1
|
2
|
3
|
4
|
5
|
เวียดนาม
|
น้ำมันดิบ
|
สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป
|
รองเท้า
|
ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำทะเล
|
ไม้และเฟอร์นิเจอร์
|
ไทย
|
เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ
|
รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ
|
แผงวงจรไฟฟ้า
|
ยางพารา
|
เม็ดพลาสติก
|
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย
ส่วนในประเด็นที่หลายคนกังวลว่า เวียดนามจะมาแข่งในอุตสาหกรรมสำคัญของไทยในอนาคต เช่นอิเล็กทรอนิกส์นั้น ผมกลับมองเป็นของธรรมชาติของวัฏจักรสินค้า (product cycle) กล่าวคือ ประเทศที่เพิ่งเริ่มพัฒนานั้นจะเริ่มต้นด้วยการส่งออกสินค้าเกษตร จากนั้นจึงพัฒนาไปสู่การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น แล้วพัฒนาเป็นการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่ใช้ปัจจัยทุนเข้มข้น สุดท้ายเมื่อกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วจะส่งออกสินค้าระดับบนที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง
ผมสังเกตว่าเวียดนามในขณะนี้ มีแบบแผนในการเติบโตเหมือนประเทศไทยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว กล่าวคือ เริ่มเน้นการส่งออกสินค้าที่ใช้แรงงานเข้มข้นอย่างเช่นสิ่งทอ ทำให้สามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้มาก และมีการเติบโตทางเศรษฐกิจเกินกว่าร้อยละ 8 ต่อปี แม้แต่ลักษณะด้านลบอย่างอัตราเงินเฟ้อที่สูง และการขาดดุลการค้าที่สูงเกินกว่าร้อยละ 4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศต่อปี และผมยังเชื่อว่า ต่อไปเวียดนามจะสามารถพัฒนาจนสามารถส่งออกสินค้าที่ซับซ้อนมากขึ้นอย่างอิเล็กทรอนิกส์ได้
แต่จุดที่ผมอยากเน้นคือ ไม่ได้มีแต่เวียดนามเท่านั้นที่จะพัฒนาประเทศของตนตามวัฏจักรสินค้า แต่ประเทศไทยจะพัฒนาและต้องพัฒนาด้วย ในปัจจุบันอุตสาหกรรมที่เคยรุ่งเรืองในอดีตอย่างสิ่งทอจะต้องเสื่อมถอยลง และสูญเสียความสามารถในการแข่งขันไปให้กับประเทศที่ไล่หลังเรามาอย่างเวียดนาม แล้วจะมีอุตสาหกรรมดาวรุ่งอย่างอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ หรืออุตสาหกรรมอื่นขึ้นมาแทนที่
ในอนาคตไทยต้องพัฒนาไปสู่การส่งออกสินค้าที่ซับซ้อน มีมูลค่าเพิ่ม และใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ทางออกจึงไม่ได้อยู่ที่การพยายามยึดอุตสาหกรรมเก่าไว้ตลอดกาลแต่ไทยต้องพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมอื่นที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เพราะโดยธรรมชาตินั้น มีการเกิดขึ้นของสิ่งใหม่ และตายไปของสิ่งเก่าเสมอ
Catagories:
Tags:
เผยแพร่:
0
เมื่อ:
2007-10-03
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ค่าแรงขั้นต่ำ: ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการบริหารจัดการ
Total views: อ่าน 90 ครั้ง
สว. 2567 คนแบบคุณก็เป็นได้ โดยไม่ต้องใช้เงิน
Total views: อ่าน 136 ครั้ง
ที่ดิน ส.ป.ก. ทำกินเพื่อเกษตรกร ไม่ใช่ ทุจริตเพื่อข้าราชการ นายทุน และนักการเมือง
Total views: อ่าน 131 ครั้ง
เปลี่ยนเงินหวย เป็น 'สลากออมทรัพย์'
Total views: อ่าน 3,417 ครั้ง
แนวทางการพัฒนา ทุนมนุษย์ สำหรับประเทศไทย
Total views: อ่าน 1,427 ครั้ง