กระบวนการพัฒนานักการเมืองแบบสิงคโปร์

สิงคโปร์นับเป็นตัวอย่างหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่อาจนับได้ว่า มีนักการเมืองส่วนใหญ่มีคุณภาพ โดยเฉพาะนักการเมืองที่มีตำแหน่งบริหารในกระทรวงต่าง ๆ รัฐบาลสิงคโปร์ได้คนที่มีความรู้ มีความสามารถทางการบริหาร มีความซื่อสัตย์ มีจริยธรรมในการทำงานสูง สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มาโดยบังเอิญ แต่มีกระบวนการในการคัดเลือกและพัฒนาผู้นำทางการเมืองรุ่นใหม่ ๆ อย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้มาด้วยความสามารถ ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะไปซื้อตำแหน่งได้เหมือนเช่นในหลายประเทศ กระบวนการพัฒนานักการเมืองของสิงคโปร์นี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจศึกษาอย่างยิ่ง อยากขอเล่าให้ฟังคร่าว ๆ
 
เนื่องจากสิงคโปร์บริหารโดยรัฐบาลพรรคเดียวมาอย่างยาวนานหลายสิบปี กระบวนการพัฒนานักการเมืองนี้จึงเป็นกระบวนการของพรรครัฐบาล กระบวนการนี้เริ่มโดยการที่รัฐบาลจัดทำระบบฐานข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่มีศักยภาพจะทำงานการเมือง โดยครอบคลุมกลุ่มคนหนุ่มสาวที่ประสบความสำเร็จใจอาชีพของตน ฐานข้อมูลนี้ครอบคลุมคนในหลากหลายวิชาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นในภาคราชการ ภาคธุรกิจ มหาวิทยาลัย องค์กรระหว่างประเทศ มีการปรับเพิ่มรายชื่อและข้อมูลอยู่เสมอ คนเหล่านี้จะถูกคัดเลือกโดยคณะบุคคลที่ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงในส่วนราชการทั้งหลาย ผู้ที่ถูกคัดเลือกจะได้รับการทาบทามและเชิญเข้าสัมภาษณ์กับคณะผู้บริหารระดับสูงเหล่านี้ การสัมภาษณ์นี้จะมีหลายครั้ง แต่ละครั้งจะสัมภาษณ์กับคณะกรรมการต่างชุดกันไปเพื่อพิจารณาว่าที่ผู้สมัครในแง่มุมต่าง ๆ นอกจากนี้ว่าที่ผู้สมัคยังต้องทำแบบทดสอบทางจิตวิทยาเพื่อประเมินสภาพทางจิตใจ
 
ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกแล้วจะถูกส่งแข่งขันในการเลือกตั้ง คนที่ได้รับเลือกตั้งจะต้องทำงานอย่างจริงจังในพื้นที่เขตเลือกตั้งของตน โดยจะมีคณะกรรมการอีกชุดที่คอยติดตามผลการทำงานอย่างใกล้ชิด คนที่ผ่านการประเมินจะได้รับโอกาสให้ทำงานใกล้ชิดรัฐมนตรีในกระทรวงในฐานะของผู้ช่วยรัฐมนตรีสักระยะหนึ่ง โดยจะได้รับมอบหมายงานหลากหลายให้รับผิดชอบในเวลาเดียวกัน เพื่อเป็นการทดสอบความสามารถในการทำงาน พร้อมกับเป็นการขยายศักยภาพและขยายโอกาสในการเรียนรู้ไปด้วยในขณะเดียวกัน ผู้ที่มีผลงานดีเด่น ประสบความสำเร็จชัดเจน จึงจะได้รับโอกาสให้ก้าวขึ้นไปบริหารกระทรวงต่าง ๆ ในฐานะรัฐมนตรี รัฐมนตรีของสิงคโปร์จะไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัวเลย เพราะว่ามีภาระงานหนักมากที่ต้องรับผิดชอบ งานทุกอย่างต้องทำให้สำเร็จด้วยมาตรฐานที่สูง ผลการปฏิบัติงานมีคุณภาพ ขณะที่ความซื่อสัตย์และมาตรฐานจริยธรรมสูงเป็นสิ่งพื้นฐานที่รัฐมนตรีทุกคนต้องมี สิ่งที่คนเหล่านี้ได้รับจากผลการทำงานอย่างทุ่มเทคือค่าตอบแทน ทั้งเงินเดือนและสวัสดิการต่าง ๆ ที่เทียบเท่ากับค่าตอบแทนระดับสูงในภาคเอกชน
 
เป็นการยากหรืออาจจะไม่มีทางเลยที่ประเทศหนึ่งประเทศใดจะพัฒนาอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น หากประเทศนั้นได้นักการเมืองที่ไร้ความสามารถไร้จริยธรรมเข้ามาทำหน้าที่บริหารงานในกระทรวงต่าง ๆ กระบวนการคัดสรรคนที่เหมาะสมให้เข้ามาสู่วงการการเมืองและพัฒนาให้บริหารงานอย่างมีสัมฤทธิ์ผล ถือเห็นหัวใจสำคัญของการสร้างชาติ ตัวอย่างจากสิงคโปร์ชี้ให้เห็นว่ากระบวนการเหล่านี้สามารถทำให้เกิดขึ้นได้
 
* นำมาจากหนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม 2551
 
admin
เผยแพร่: 
0
เมื่อ: 
2008-08-15