รัฐบาลเกาะกระแสครูประท้วง เตะถ่วงกระจายอำนาจ

ชี้พฤติกรรมรัฐบาลที่รับปากทุกฝ่ายอย่างขัดแย้งกันในแนวทาง เป็นการเตะถ่วงปัญหาและซื้อเวลาเพียงให้รอดตัวเฉพาะหน้า ชี้พฤติกรรมของรัฐบาลไม่ได้สะท้อนว่าไม่เห็นความสำคัญของการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
การแก้ไข ร่าง พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. hellip;. ที่เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2548 นั้น เป็นการแก้ปัญหาแบบผิวเผิน เป็นการหาทางออกที่ใช้วิธีเลี่ยงประเด็น เพื่อให้ตัวเองพ้นแรงกดดัน
ผมเห็นว่า ประเด็นเรื่องการถ่ายโอนอำนาจการศึกษาให้ท้องถิ่นนั้นเป็นปัญหาของการบริหาร ซึ่งต้องแก้ปัญหาด้วยการทบทวน ปรับเปลี่ยนวิธีการบริหาร ไม่ใช่การแก้หลักการของการกระจายอำนาจ ซึ่งไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาจริง เป็นเพียงการเตะถ่วงปัญหาไปเรื่อย ๆ
อีกประเด็นที่ผมยังติดใจ คือ เหตุใดการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้จึงไม่กำหนดเงื่อนไขเวลาที่ชัดเจน ทั้ง ๆ ที่การกำหนดเงื่อนไขของเวลาจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการพัฒนาและเตรียมความพร้อม
ที่ผ่านมาผมเห็นว่า หากรัฐบาลต้องการพัฒนาเรื่องใดมักกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน เช่น การแก้ปัญหาความยากจนใน 6 ปี แก้ปัญหาความไม่สงบภาคใต้ใน 3 เดือน การเปิดเสรีทางการค้ากับออสเตรเลียที่กำหนดระยะเวลา 15 ปีในการเตรียมความพร้อมของอุตสาหกรรมโคเนื้อและโคนม เป็นต้น
แต่ในประเด็นกระจายอำนาจการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากรัฐบาลกลับไม่ได้กำหนดเงื่อนไขเวลาที่จะทำให้สำเร็จ หรือเป็นเพราะว่า รัฐบาลไม่ได้เห็นความสำคัญในเรื่องนี้ตั้งแต่แรก
พฤติกรรมที่ผ่านมาของรัฐบาลชี้ให้เห็นว่า ไม่เห็นความสำคัญของการกระจายอำนาจ ทั้งเรื่องการจัดสรรงบประมาณให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และการกระจายอำนาจการจัดการศึกษา รัฐบาลไม่มีแนวทางภาคปฏิบัติที่ชัดเจน ทั้งด้านการเตรียมความพร้อมของ อปท. การจัดเตรียมระบบการบริหารครูและบุคลากรทางการศึกษา และการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการศึกษา

การแก้ไขกฎหมายฉบับนี้จึงเป็นการ lsquo;เกาะกระแสrsquo; ที่ครูออกมาคัดค้าน เพื่อสร้างความชอบธรรมเพื่อแก้กฎหมายกระจายอำนาจ ซึ่งรัฐบาลพยายามหาโอกาสที่จะปลดล็อคเงื่อนเวลาในกฎหมายฉบับนี้อยู่แล้ว

admin
เผยแพร่: 
0
เมื่อ: 
2005-12-02