เงินสนับสนุนพรรคฯ : สร้างพรรคการเมืองของประชาชน
สิ่งที่อยู่ในใจของหลายคนในการเลือกผู้แทน คือ เราต้องการให้คนดีและคนที่มีความรู้ความสามารถได้รับการเลือกตั้งเข้าสู่สภา แต่ขณะเดียวกัน เราคงมีคำถามว่า ldquo;จะดึงดูดคนดีและเก่งเข้ามาทำหน้าที่ตัวแทนประชาชนให้มากขึ้นอย่างไรrdquo; เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมา แม้เราจะมีรัฐธรรมนูญฉบับที่ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด และสะท้อนอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนได้มากกว่าฉบับอื่น ๆ แต่ปรากฏว่ายังไม่สามารถสกัดกั้นนักการเมืองที่ไม่เหมาะสมเข้ามาบริหารประเทศได้
ผมเห็นว่า ทางออกสำคัญอยู่ที่การแก้ไขพรรคการเมือง มิให้นายทุนเป็นเจ้าของ แต่เปิดโอกาสให้ประชาชนเป็นเจ้าของ ด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมในเรื่อง เงินบริจาคให้แก่พรรคการเมือง ตามร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง โดยเสนอว่า ควรมีการจำกัดเพดานการบริจาค และสร้างระบบจูงใจให้ประชาชนทุกกลุ่มและปัจเจกชนมีส่วนสนับสนุนพรรคการเมืองอย่างจริงจัง รวมถึงการส่งเสริมให้พรรคการเมืองยอมเปิดเผยเรื่องเงินบริจาคให้กับพรรค เพื่อป้องกันมิให้กลุ่มนายทุนแทรกแซงความเป็นเจ้าของพรรค และสร้างความโปร่งใสและธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้น
ผมได้พยายามสื่อสารแนวคิดนี้ในหลากหลายช่องทาง คือ ผ่านคำปราศรัยในช่วงเลือกตั้ง ตั้งแต่ช่วงหาเสียงเลือกตั้งให้กับพรรคประชาธิปัตย์ โดยผมได้กล่าวเชิญชวนให้พี่น้องประชนที่มาฟังคำปราศรัย ร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของพรรค ส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปบริจาคเงินสนับสนุนพรรคการเมือง
สำหรับการบริจาคเงินให้แก่พรรคการเมืองสามารถบริจาคผ่านหลายหน่วยงาน เช่น ผ่านสรรพากร โดยผ่านการยื่นแบบ ภ.ง.ด. เพื่อคำนวณภาษีเงินได้ประจำปี ผ่าน ก.ก.ต. คือ กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง หรือ ผ่านการบริจาคแก่พรรคการเมืองโดยตรง
การจำกัดจำนวนเงินสูงสุดที่สามารถบริจาคได้จะช่วยเปิดโอกาสให้ ldquo;คนดี-คนเก่งrdquo; เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแต่ ldquo;คนรวยrdquo; เท่านั้น หากแนวคิดนี้ขยายผลสู่ภาคปฏิบัติที่กว้างขวางขึ้น เราจะมีนักการเมืองที่เป็น ldquo;ตัวแทนrdquo; ประชาชน ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนรวมมากขึ้นอย่างแน่นอน
ผมจึงเชื่อว่า หากพรรคการเมืองมีแหล่งที่มาของเงินอย่างเหมาะสม ย่อมเป็นหลักประกันเบื้องต้นว่า พรรคการเมืองจะไม่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง สิ่งสำคัญประการหนึ่งคือ ประชาชนต้องตระหนักถึงบทบาทของตนเองในการมีส่วนสนับสนุน ldquo;คนดีrdquo; ให้เข้าไปเป็นตัวแทนในสภาฯ มากกว่ารอรับข้อเสนอและผลประโยชน์ระยะสั้นที่นักการเมืองหยิบยื่นให้ เพื่อแลกกับเสียงโหวตให้ตนเข้าไปกอบโกยผลประโยชน์ในสภาฯ