พรรคการเมืองของมวลชน
พรรคการเมืองมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกำหนดอนาคตของประชาชนและอนาคตของประเทศ เพราะพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงส่วนใหญ่จะมีโอกาสกำหนดนโยบายและบริหารประเทศ ในฐานะรัฐบาลอย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาจะเห็นว่า พรรคการเมืองตกอยู่ภายใต้กลุ่มทุนของพรรค หัวหน้าพรรคเป็นเจ้าของพรรคและมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียว เพราะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งหมดให้กับพรรค ส่งผลให้การบริหารประเทศเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องมากกว่าประชาชน!! การเลือกตั้งครั้งใหม่ คงอยู่ในสภาพที่ไม่แตกต่างจากอดีตที่ผ่าน ๆ มา
ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ? เป็นที่ทราบกันดีว่า การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคการเมืองมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าใช้จ่ายสำนักงาน ค่าจ้าง เจ้าหน้าที่แผนกต่าง ๆ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้ง แต่พรรคการเมืองมิใช่บริษัทที่มีการผลิตหรือขายสินค้าแลกกับรายได้ เพื่อนำมาชดเชยค่าใช้จ่าย หน้าที่หลักของพรรคการเมืองคือเป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างประชาชนกับรัฐ
ตามกฎหมายแล้ว แหล่งรายได้สำคัญของพรรคการเมืองมี 3 ทางด้วยกัน อันได้แก่ เงินค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรคการเมืองจากสมาชิกพรรค การสนับสนุนพรรคการเมืองโดยรัฐ และการบริจาคทรัพย์สินให้พรรคการเมือง หากพรรคการเมืองมีรายรับเข้ามาไม่เพียงพอกับรายจ่าย จะทำให้พรรคไม่สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองต่อไปได้ เป็นเหตุให้หลายพรรคการเมืองต้องเลิกดำเนินการไป หรือไม่ก็กลายเป็นพรรคที่ตกอยู่ใต้การอุปถัมภ์ของคนเพียงบางกลุ่ม และใช้พรรคการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มตน แทนที่จะทำให้พรรคเป็นกลไกเชื่อมโยงประชาชนกับการเมืองอย่างที่ควรเป็น
ดังนั้น หากพรรคการเมืองมีแหล่งที่มาของเงินอย่างเหมาะสมและถูกต้อง ย่อมเป็นหลักประกันเบื้องต้นว่า พรรคการเมืองจะไม่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เป็นไปได้ไหม ที่พรรคการเมืองจะเป็นของประชาชน เป็นของสมาชิกพรรคทุกคน โดยที่สมาชิกพรรคและประชาชนทั่วไป สามารถมีส่วนร่วมสนับสนุนในค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของพรรค
การให้เงินบริจาคแก่พรรคการเมือง นับเป็นกลไกสำคัญ ที่จะช่วยรักษาพรรคการเมืองที่เราสนับสนุนในอุดมการณ์ทางการเมืองหรือแนวทางการดำเนินงาน ให้คงอยู่ต่อไปได้ ขณะนี้กฎหมายกำหนดแล้วว่า ผู้บริจาคเงินแก่พรรคการเมือง มีสิทธินำจำนวนเงินที่บริจาคไปหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีได้ ดังนั้น
หากเราต้องการเห็นพรรคการเมืองที่ทำหน้าที่และเป็นตัวแทนสะท้อนความต้องการของเราอย่างแท้จริง โดยไม่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มทุน ดังนั้น เพื่อน ๆ และประชาชนทั่วไป สามารถที่จะมีส่วนร่วมสนับสนุนพรรคการเมืองโดยการบริจาคให้พรรคการเมืองที่เรานิยมชมชอบ ซึ่งจะทำให้พรรคการเมืองดังกล่าวเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง อันจะทำให้การตัดสินใจ
ต่าง ๆ จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
ในขณะเดียวกัน เพื่อป้องกันที่พรรคการเมืองตกอยู่ภายใต้เจ้าของพรรคเพียงคนเดียวหรือกลุ่มทุนไม่กี่คน จนเสมือนว่าหัวหน้าพรรคคือเจ้าของพรรคเพียงคนเดียว อาจจะมีการเรียกร้องให้การจำกัดยอดเงินบริจาคให้มีความเหมาะสม ไม่ปล่อยให้มีการบริจาคครั้งละ 50 ล้าน หรือ 100 ล้านบาท จนผู้บริจาคก้อนโตสามารถมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดคนเดียวภายในพรรค ขณะที่สมาชิกอื่น ๆ ในพรรคเป็นเพียงผู้รับคำสั่งและนำไปปฏิบัติการเพียงอย่างเดียว
ถึงเวลาแล้วหรือไม่ ที่พรรคการเมืองไทยจะมาจากฐานประชาชนที่มีส่วนร่วมทางการเมืองตั้งแต่ ร่วมรณรงค์ทางการเมือง การสมัครเป็นสมาชิกพรรค และร่วมสนับสนุนทางการเมืองด้วยการบริจาค ซึ่งจะทำให้การเมืองนั้นเป็นของประชาชนอย่างแท้จริงที่มีส่วนร่วมคิด ร่วมกำหนดนโยบาย ร่วมพัฒนา และบริหารประเทศ