ประเมินเพื่อปรับปรุง

การ ldquo;ประเมินrdquo; ผลลัพธ์ของเวลาที่ได้ใช้ไป เป็นขั้นตอนสำคัญอันดับสุดท้ายที่จำเป็นต้องทำ หากต้องการเป็นนักบริหารเวลาที่ประสบความสำเร็จ การประเมินผลทำให้มองเห็นชัดเจนขึ้นว่า เวลาที่ใช้ไปนั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ มีข้อบกพร่องผิดพลาดในจุดใดบ้าง และควรจะมีการปรับปรุงแก้ไขอย่างไรบ้างในการวางแผนการใช้เวลาในครั้งต่อไป
ประเมินความสำเร็จ-ล้มเหลว ประเมินดูว่าแผนการใช้เวลาที่วางไว้นั้นสามารถทำได้จริงมากน้อยเพียงใด โดยพิจารณาจากแผนงานในแต่ละวันว่า มีกิจกรรมใดที่เราสำเร็จตามที่วางไว้ กิจกรรมใดที่ทำแล้วแต่ยังไม่สำเร็จ กิจกรรมใดที่ไม่ได้ทำเลย เพื่อค้นหาสาเหตุว่า เพราะเหตุใดแผนการใช้เวลาที่เราตั้งไว้จึงประสบผลสำเร็จหรือไม่ประสบผลสำเร็จ จะหาทางป้องกันหรือจะพัฒนาปรับปรุงตารางเวลาต่อไปอย่างไรบ้าง
หลักการสำคัญที่ควรตระหนัก คือ การประเมินผลอย่าง ldquo;ซื่อสัตย์ต่อตนเองrdquo; เคารพตารางเวลาที่เราได้เริ่มต้นคิดวางแผนไว้อย่างดีแล้วในตอนแรก หากไม่ได้ทำกิจกรรมใดหรือทำไม่สำเร็จ เราควรพิจารณาอย่างเป็นกลางว่ามีเหตุผลที่ดีพอในความล้มเหลวนั้นหรือไม่ หรือมาจากความไร้วินัยไม่ควบคุมตนเองอย่างเต็มที่สุดความสามารถ และควรหามาตรการอะไรมาช่วยให้สามารถทำตามตารางเวลาได้ดีขึ้นมิใช่ด่วนสรุปว่ากิจกรรมที่ทำไม่สำเร็จนั้นไม่สมควรที่จะทำอีกต่อไป
จดไว้ในบันทึกช่วยจำ เครื่องมือสำคัญที่สามารถช่วยในการประเมินผลการใช้เวลาได้แก่ ldquo;การจดบันทึกช่วยจำrdquo;เราอาจบันทึกการเรียนรู้จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และเก็บไว้เป็นข้อคิด พร้อมทั้งหาวิธีการแก้ไข และประเมินแผนการใช้เวลาของเราที่ผ่านมา เพื่อว่าครั้งต่อไปจะไม่ผิดพลาดซ้ำในเรื่องเดิมอีก การทำความผิดในเรื่องเดิมเป็นการบ่งบอกว่าเราไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยจากความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น และเป็นการเสียเวลาให้กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยไม่จำเป็น
ปรับปรุงแผนการใช้เวลาหลังจากพบจุดอ่อนหรือข้อบกพร่องจากการประเมินผลการใช้เวลาในแผนเดิมที่เราวางไว้ ขั้นตอนต่อไปคือการ ldquo;ปรับปรุงrdquo; แผนนั้น ๆ เพื่อพัฒนาแผนการใช้เวลาในสัปดาห์ต่อไปให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้จริง การปรับปรุงแผนการใช้เวลาเป็นสิ่งที่เราต้องทำด้วยการใช้ความคิดในการพิจารณาอย่างเหมาะสมรอบคอบ สิ่งสำคัญที่เราควรทำ ได้แก่..
พยายามต่อไป ไม่สิ้นหวังแม้ล้มเหลว แม้เราจะมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการที่จะบริหารเวลา บริหารชีวิต บริหารหน้าที่การงานของเราต่าง ๆ อย่างดีที่สุดแล้วก็ตามแต่หลายครั้งอาจต้องเผชิญกับปัญหา ความผิดพลาดล้มเหลว อันเนื่องมาจากอุปสรรคจากสิ่งแวดล้อมและสถานการณ์ภายนอก หรือจากความอ่อนแอภายในของเราเอง จนอาจรู้สึกท้อแท้ใจ คิดว่าตนเองคงไม่สามารถทำได้สำเร็จเป็นแน่และอาจล้มเลิกความตั้งใจไปในท้ายที่สุด
ในความเป็นจริงแล้ว เราต้องยอมรับความจริงว่าในบางช่วงชีวิตเราอาจผิดพลาด ล้มเหลวไปได้บ้าง แต่ไม่ควรนำสิ่งนั้นมาเป็นเรื่องบั่นทอนทำให้หมดแรงที่จะก้าวต่อไป ในทางกลับกันควรยกให้ความผิดพลาดล้มเหลวนั้นเป็น ldquo;พลังrdquo; ในการพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้น
จูงใจด้วยการให้รางวัลตัวเอง เราควรมีการสร้างแรงจูงใจด้วยการ ldquo;ให้รางวัลกับตัวเองrdquo; เป็นระยะ ๆ โดยการให้สัญญากับตัวเองล่วงหน้าว่า ถ้าทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้สำเร็จตามแผนการเป้าหมายที่วางไว้ เช่น ตื่นนอน 6 โมงเช้าได้ติด ๆ กันเป็นเวลา 20 วัน...ทำงานที่หัวหน้ามอบหมายให้เสร็จตามเวลาที่กำหนดและได้ผลงานตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ จะให้รางวัลสิ่งใดกับตัวเองบ้าง เป็นต้น
การทำเช่นนี้ทำให้เราเกิดแรงจูงใจที่จะมุมานะ อดทน พยายามทำสิ่งนั้นให้สำเร็จเพื่อได้รับรางวัลตามที่สัญญาไว้ซึ่งนอกจากเป็นการสร้างแรงจูงใจนอกเหนือไปจากการทำเพราะเห็นคุณค่าในตัวของสิ่งนั้นเองแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้ผ่อนคลายความกดดัน และความเหนื่อยล้าจากการทุ่มเททำงานหนักด้วยเช่นกัน
การประเมินผลการใช้เวลารวมทั้งการประเมินผลการทำงาน เป็นขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการบริหารชีวิตสู่ความสำเร็จ เพื่อสกัดกั้นสิ่งที่เป็นจุดอ่อนในชีวิตไม่ให้มาทำลายความมุ่งมั่นตั้งใจของเรา รวมทั้งเป็นการเสริมจุดแข็งเพื่อส่งเสริมให้เป้าหมายที่เราตั้งใจไว้ให้สามารถประสบผลสำเร็จได้อย่างยั่งยืน
admin
เผยแพร่: 
งานวันนี้
เมื่อ: 
2008-03-18