เร่ง กกต. ให้ข้อมูล...กระตุ้นประชาชนสนใจการเมือง



* ที่มาของภาพ http://ecard.jimmyspa.com/anytime/card/c005001.gif
อีกเพียงไม่ถึงเดือนจะถึงวันสำคัญ พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนจะได้ออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงของตนในการเลือกตั้งผู้แทนฯ เข้ามาบริหารประเทศชาติหลังจากที่ประชาธิปไตยของปวงชนชาวไทยได้ถูกเว้นวรรคไว้นานร่วมปี

ในขณะที่กำหนดเวลาได้กระชั้นชิดเข้ามาทุกทีแต่ปรากฏว่าข่าวสารข้อมูลที่ประชาชนได้รับเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะมาถึงไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของผู้สมัครรับเลือกตั้ง รายละเอียดนโยบายของพรรคการเมืองต่าง ๆ ผ่านการจัดทำเป็นเอกสาร ป้ายประกาศ รวมทั้งการตระเวนออกปราศรัยหาเสียงเพื่อนำเสนอนโยบายของพรรคการเมืองต่าง ๆ ฯลฯ กลับเผยแพร่ออกมาให้ประชาชนได้รับทราบค่อนข้างล่าช้ามากกว่าการเลือกตั้งในหลายครั้งที่ผ่านมาก

ความล่าช้าที่เกิดขึ้นนี้อาจเป็นที่เข้าใจได้ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งในชุดปัจจุบันนั้นเป็นชุดเฉพาะกิจ ที่เข้ามาทำหน้าที่ควบคุมดูและและดำเนินการจัดการเลือกตั้งจนกว่าการบริหารจัดการบ้านเมืองจะเข้าสู่ภาวะปกติหลังการคืนอำนาจให้ประชาชนการดำเนินการต่าง ๆ จึงต้องรีบเร่งแข่งกับเวลา ดังนั้นจึงอาจมีความฉุกละหุกบ้างในการเตรียมงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกประกาศ กกต. ในบางเรื่องที่ล่าช้าไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำหนดสถานที่ หลักเกณฑ์ และวิธีปิดประกาศติดแผ่นป้าย ของผู้สมัครและพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่ต้องรอเกือบ 3 สัปดาห์หลังจากการประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งกว่าที่จะมีการประกาศกฎเกณฑ์ที่แน่ชัดออกมา ส่งผลให้ในระหว่างนั้นผู้สมัครและพรรคการเมืองต่าง ๆ จึงยังไม่กล้าที่จะดำเนินการอะไรมากนักในการเดินสายให้ข้อมูลและทำความรู้จักกับประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการจาก กกต. ว่าจะทำอะไร ได้ ไม่ได้ แค่ไหน อย่างไร

อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งรวมทั้งนโยบายโดยละเอียดนั้นเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อประกอบการตัดสินใจของประชาชน ว่าควรจะเลือกใครที่เก่งและดีที่สุดเข้ามาเป็นผู้แทน ฯ ให้เข้ามาบริหารประเทศชาติ การดำเนินการที่ล่าช้าของ กกต. จึงอาจทำให้ ประชาชนเสียโอกาสในการทำความรู้จักผู้สมัครแต่ละคน และรับฟังนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองอย่างละเอียดถี่ถ้วนให้มากที่สุด

ดังนั้นเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ผมจึงขอเสนอว่า

ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป กกต. ควรพิจารณาในการออกประกาศ ระเบียบ กฎเกณฑ์ในการหาเสียงเลือกตั้ง หรือการกำหนดจุดปักป้าย จุดปราศรัยหาเสียงต่าง ๆ ให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนสามารถรู้จักประวัติผู้สมัครในพื้นที่ของตนได้อย่างชัดเจนและรวดเร็วที่สุด หากเป็นไปได้ผู้สมัครและพรรคการเมืองน่าจะทราบและดำเนินการได้ทันทีหลังจากประกาศพระราชกฤษฎีการการเลือกตั้ง รวมทั้ง กกต. ควรมีการประสานงานกับสื่อมวลชน อย่างใกล้ชิดในการทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาแทนประชาชน สอดส่องหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้สมัครรับเลือกตั้งและนโยบายของพรรคการเมืองต่าง ๆ มานำเสนออย่างเป็นธรรม เพื่อเป็นข้อมูลช่วยประกอบการตัดสินใจให้กับประชาชนว่า ควรจะเลือกใครที่เป็นคนเก่งและคนดีมากที่สุดให้เข้าไปเป็นตัวแทนในการบริหารประเทศ

นอกจากนี้ควรมีการกระตุ้นให้ประชาชนคนไทยทุกคน มีความกระตือรือร้น หันมาสนใจเรื่องการเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่จะอาสาตัวมาเป็นผู้แทนในเขตเลือกตั้งของตนว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร เป็นคนเก่ง คนดีหรือไม่มีฉากหน้าสวยหรูแต่เบื้องหลังเป็นนักเลงหรือมาเฟียคุมพื้นที่หรือไม่ ฯลฯ มากกว่าเพียงแค่รับข้อมูลด้านบวกที่ผู้สมัครและพรรคการเมืองนำมาเสนอให้เท่านั้น

อนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป จะวนเวียนอยู่กับปัญหาเดิม ๆ นักการเมืองที่โกงกินคนเดิม ๆ หรือจะเข้าสู่การเมืองยุคใหม่นำพาประเทศไปในทิศทางที่สดใสกว่า ldquo;กกต.rdquo; นับเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางนั้น

แสดงความคิดเห็น
admin
เผยแพร่: 
0
เมื่อ: 
2007-11-22