วอนสอบสวนเหตุวางระเบิดอย่างรอบคอบ
เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
สถานการณ์ที่ฝ่ายรัฐบาลและตำรวจสรุปว่า เป็นการลอบวางระเบิดสังหารรักษาการนายกฯ ได้กลบกระแสข่าวร้อนในช่วงต้นสัปดาห์อย่างหมดสิ้น พร้อมคำวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุการณ์การลอบวางระเบิดดังกล่าวว่าอาจเป็นการจัดฉากเพื่อวัตถุประสงค์บางประการ อาทิ เพื่อกลบข่าวม็อบสยามพารากอน และเซ็นทรัลเวิรลด์ เพื่อลดความน่าเชื่อถือของผู้มีบารมีบางท่านในสังคมรวมถึงอาจเพื่อฉวยโอกาสประกาศ พ.ร.บ.สถานการณ์ฉุกเฉิน ฯลฯ
ผมขอไม่วิพากษ์วิจารณ์ว่าสถานการณ์นี้มีการจัดฉากหรือไม่เพราะความจริงจะปรากฏเมื่อการพิพากษาคดีนี้เสร็จสิ้น โดยขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แต่งตั้งคณะทำงานคลี่คลายคดีลอบสังหาร โดยระดมตำรวจมือปราบมือสอบสวนชั้นดีถึง 44 นาย
แต่กระนั้นมิได้หมายความว่าผลสอบสวนของหน่วยงานดังกล่าวที่ออกมาจะทำให้สังคมหายจากความคลางแคลงใจ หากกระบวนการสอบสวนจำกัดอยู่กับบางกลุ่มคน ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า สังคมกำลังตั้งคำถามถึงความเป็นการกลางในการดำเนินการสอบสวนของหน่วยงานดังกล่าว
และไม่อยากให้หน่วยงานที่ดำเนินการสอบสวนเร่งตัดประเด็นบางอย่างออกไป โดยเฉพาะประเด็นการจัดฉากสร้างสถานการณ์ ที่มีการอ้างว่ามีความชัดเจนจากการพิสูจน์วัตถุของกลางจากผู้เชี่ยวชาญ ว่าเป็นระเบิดที่ต่อวงจรพร้อมใช้ เพราะถึงจะพิสูจน์ได้ว่าเป็นระเบิดที่ต่อวงจรพร้อมใช้แล้ว แต่มิได้หมายความว่าจะมิใช่การจัดฉากสร้างสถานการณ์
ผมอยากให้การสอบสวนในครั้งนี้เป็นไปอย่างรอบคอบอย่ารีบร้อนตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออกไป หากยังไม่ได้มีการพิสูจน์อย่างชัดเจนรวมทั้งอยากให้มีหลายหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดเข้ามามีส่วนในการสอบสวนร่วมกับคณะทำงานที่ได้จัดตั้งขึ้น โดยเฉพาะทหารที่น่าจะมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เพื่อให้ผลการสอบสวนมีความแน่นนอน และน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น
เพราะผมไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เป็นเหมือนเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2544 ที่เครื่องบินการบินไทย ซึ่งคณะของ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทาง เกิดระเบิดและเพลิงลุกไหม้ โดยที่หลังเหตุการณ์เพียง 1 วัน พ.ต.ท.ทักษิณได้ให้สัมภาษณ์ทันทีว่า รายงานของเจ้าหน้าที่ค่อนข้างชัดเจนว่า สาเหตุของเครื่องบินระเบิดน่าจะมาจากวัตถุระเบิดที่มีผู้นำมาติดไว้ที่ใต้ท้องเครื่องบินตามด้วยคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนที่ยืนยันว่า เป็นการวางระเบิดแน่นอน
แต่หลังจากนั้นมีหลายหน่วยงานได้ศึกษาควบคู่ อาทิ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากรณีเครื่องการบินไทยระเบิด สภาผู้แทนราษฎร, รัฐบาลไทย-คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการคมนาคมแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดทั้งไทย-สหรัฐ ต่างสรุปว่าเป็นอุบัติเหตุ
ผมจึงอยากให้บทเรียนนี้ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเป็นสิ่งที่สอนและใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อการทำงานจะไม่ผิดพลาดในเรื่องเดิม ๆ อีก