กองทุนเวลา : ตัวอย่างโครงการประกอบการเพื่อสังคม

หลังจากที่ผมได้แบ่งปันแนวคิด ldquo;ผู้ประกอบการเพื่อสังคมrdquo;ผ่านทางบทความในหนังสือพิมพ์ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-letter) และยังเผยแพร่ใน www.blog/oknation.net/kriengsak ได้มีผู้ที่สนใจแนวคิดนี้จำนวนไม่น้อย ซึ่งส่วนหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กลับมายังผมด้วย

ตามที่กล่าวไปแล้วว่า แนวคิดนี้ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับสังคมไทย ทำให้หลายท่านยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนในทางปฏิบัติ ผมจ
ึงขอยกตัวอย่างโครงการ ldquo;กองทุนเวลาrdquo; ที่ผมพร้อมทั้งอาสาสมัครร่วมกันดำเนินการมาได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว โดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านที่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมทำงานเพื่อสังคม หรือใช้เป็นแนวทางในการริเริ่มทำโครงการเพื่อสังคมอื่น ๆ ต่อไป
แนวคิดของโครงการกองทุนเวลาเพื่อสังคมอยู่บนความเชื่อที่ว่า แต่ละคนมีความสามารถที่แตกต่างกัน และอาจนำมาช่วยผู้อื่นได้ ผ่านการใช้เวลาว่างในชีวิตประจำวันที่มีอยู่จำนวนหนึ่งไปช่วยเหลือสังคม การที่คนจำนวนมากสละเวลาว่างของตน ย่อมเป็น ldquo;พลังเวลาrdquo; ที่มีคุณค่ามหาศาลทำให้สังคมกลับเข้มแข็ง

โครงการนี้เปิดโอกาสให้สมาชิกทุกระดับและทุกกลุ่มตั้งแต่ บุคคล องค์กร สถาบันการศึกษา บริษัท หน่วยงานภาครัฐ เอกชน หรือชุมชนในสังคมนั้น สมัครเข้าร่วมโครงการฯ จัดสรรช่วงเวลาว่างที่ตนสามารถอุทิศให้ได้ เพื่อทำกิจกรรมของสังคมตามประเภทของกิจกรรมที่ตนต้องการมีส่วนร่วม โดยกองทุนเวลาจะทำหน้าที่จับคู่ระหว่างผู้ขอรับความช่วยเหลือ กับผู้ให้ความช่วยเหลืออย่างเหมาะสม นับเป็นการลดภาระการพึ่งพิงภาครัฐ ด้วยการรวมพลังของคนในสังคม

การจัดตั้งกองทุนฯ มีเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังว่า ในสังคมมีอุปทาน (
supply) ของเวลาของคนจำนวนมากที่ยังไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ ซึ่งเกิดจากการใช้เวลาที่ยังไม่เกิดประโยชน์สูงสุด ขณะเดียวกัน มีความต้องการ (demand) คนเข้ามาทำงานเพื่อสังคมจำนวนมาก แต่ไม่มีกลไกช่วยนำคนที่มีความสามารถ มีเวลา และมีจิตสาธารณะ ให้มาพบกับผู้ที่มีความต้องการความสามารถและเวลาของประชาชนเหล่านั้น

นอกจากนี้ ความไม่สมบูรณ์ของข้อมูลข่าวสารเป็นอีกหนึ่งอุปสรรค ที่ทำให้ผู้ที่มีความสามารถและมีเวลาว่าง ไม่รู้ว่าใครมีความต้องการให้เขาเข้าไปช่วยเหลือบ้าง เช่นเดียวกับผู้ที่มีความต้องการความช่วยเหลือ ที่ไม่รู้ว่าใครที่มีความสามารถช่วยเหลือเขาได้

ผมเห็นว่าสังคมไทยยังขาดระบบที่ทำหน้าที่ดังกล่าว ข้อมูลข่าวสารดังกล่าวยังมีอยู่ในวงจำกัด ขาดคนกลางที่ทำหน้าที่รวบรวมความต้องการของแต่ละฝ่าย ขาดระบบจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถประสานพลังเพื่อแก้ไขปัญหาสังคม จึงทำให้มีความต้องการของคนบางส่วนในสังคมไม่ได้รับการช่วยเหลือ และทำให้ความสามารถและเวลาของคนบางส่วนไม่ได้ถูกใช้ไปอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด

การจัดตั้งกองทุนเวลาจะช่วยเข้ามาอุดช่องว่างในส่วนที่ขาดหายไปของสังคมได้ และสามารถเติมเต็มความต้องการของสังคม ทำให้ผู้ให้และผู้รับเกิดความพึงพอใจ เพราะเกิดจากความสมัครใจทั้งสองฝ่าย ส่งผลให้ประเทศได้รับการพัฒนาและมีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน และสังคมเข้มแข็ง

มากยิ่งกว่านั้นกองทุนเวลาจะเป็นตัวช่วยลดช่องว่างของสังคม เพราะเป็นกระบวนการถ่ายโอนความรู้ความสามารถของผู้เข้มแข็งให้กับผู้อ่อนแอ การอุทิศเวลาว่างเพียงน้อยนิดของแต่ละคนจึงสามารถสร้างสรรค์สังคมได้อย่างมากมายมหาศาล

กองทุนเวลามีวิธีการดำเนินกิจกรรม คือ เป็นการจัดการด้านอุปทานของเวลา โดยการสร้างระบบหรือวิธีการในรูปแบบต่าง ๆ ที่เหมาะสม เพื่อให้อาสาสมัครแต่ละคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างสะดวกและเป็นไปตามความสนใจ โดยอาจจะแบ่งเป็นกลุ่มตามลักษณะทางเศรษฐกิจและสังคม และตามความสนใจ

ตัวอย่างกลุ่มตามความสนใจ เช่น กลุ่มนักศึกษา กลุ่มคนหนุ่มสาว กลุ่มคนทำงาน กลุ่มผู้เกษียณอายุ กลุ่มที่สนใจปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน หรือกลุ่มที่สนใจปัญหาสุขภาพในผู้สูงอายุ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้อาสาสมัครสามารถทำงานร่วมกันได้โดยไม่ต้องปรับตัวมาก และสามารถเชิญชวนญาติมิตรที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันให้อุทิศเวลาเข้ามาทำงานในกองทุนเวลาได้ด้วย

กองทุนเวลาจะจัดระบบสารสนเทศ เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเวลาและกิจกรรมที่อาสาสมัครแต่ละคนได้ทำงานช่วยเหลือสังคมผ่านกองทุนฯ แล้วทำการคำนวณออกมาเป็นหน่วยคะแนนที่สามารถนับได้ ระดับคะแนนสะสมที่อาสาสมัครแต่ละคนได้รับ จะถูกใช้เป็นเกณฑ์ในการกำหนดรางวัลในรูปแบบต่าง ๆ ให้แก่อาสาสมัครแต่ละคน ด้วยวิธีการนี้ อาสาสมัครจะเกิดแรงจูงใจในการทำงานเพื่อช่วยสังคม และจูงใจให้คนอื่น ๆ เข้ามาร่วมทำงานในกองทุนฯ อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้กองทุนฯ จะทำหน้าที่ในการจัดโครงการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อคนในสังคม โดยการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีความต้องการให้อาสาสมัครไปทำงาน เช่น โครงการห้องสมุดสำหรับคนจน โครงการหนังสือมือสอง โครงการอ่านหนังสือลงแผ่นซีดีให้คนตาบอดฟัง โครงการสอนภาษาอังกฤษให้เด็กในชุมชน การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพและครอบครัว การช่วยซ่อมแซมที่อยู่อาศัย การสร้างสิ่งของถาวรให้แก่คนในชุมชน เป็นต้น

ผมเชื่อว่าแนวคิดการจัดตั้งกองทุนเวลาเป็นแนวคิดเชิงที่มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างให้เกิดขึ้น พร้อมทั้งขยายจำนวนเพิ่มขึ้นในสังคมไทย
หากวันนี้ทุกคนบริจาคเวลาว่างของตนอย่างน้อยเพียงเดือนละ 3 ชั่วโมง และสามารถขยายไปอย่างน้อย 1,000,000 คน กองทุนฯจะมีจำนวนเวลารวมถึง 3 ล้านชั่วโมงต่อเดือนเพื่อการทำการดีเพื่อสังคมส่วนรวม ซึ่งสามารถทำให้สังคมไทยน่าอยู่ยิ่งขึ้น ลดภาระของภาครัฐได้ในระยะยาวและยังเป็นการแก้ไขปัญหาสังคมที่ยั่งยืน

กองทุนเวลาเป็นวิธีการสร้างและใช้ทุนทางสังคม
(Social capital) อย่างเป็นรูปธรรม และเป็นเครื่องมือในการหล่อหลอมและฟื้นฟู ldquo;ความมีน้ำใจrdquo; ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของคนไทย ให้กลับคืนมาอีกครั้ง
admin
Catagories: 
เผยแพร่: 
0
เมื่อ: 
2007-04-23