เกรียงศักดิ์ชี้ หากคนเชื่อจัดฉาก เศรษฐกิจทรุดแน่

ldquo;หากประชาชนเชื่อว่าการลอบวางระเบิดครั้งนี้เป็นการจัดฉาก จะส่งผลทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนตกต่ำลงอย่างรุนแรงและยาวนาน เพราะการจัดฉากเป็นการส่งสัญญาณว่า รัฐบาลต้องการจัดการกับฝ่ายตรงข้ามอย่างเด็ดขาด และอาจตีความได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องการกลับมาเป็นนายกฯอีก ทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองจะยังไม่จบแม้มีการเลือกตั้งแล้ว นักลงทุนย่อมเกิดความกังวลว่า รัฐบาลจะใช้เหตุการณ์นี้เป็นข้ออ้างในการประกาศภาวะฉุกเฉิน ซึ่งเป็นอันตรายต่อภาวะเศรษฐกิจอย่างมากrdquo;

ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ในทางตรงกันข้าม หากคนเชื่อว่าเป็นการลอบสังหารจะไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นมากนัก เพราะสังคมรับรู้ข่าวการลอบสังหารนายกฯ มานานพอสมควรแล้ว รวมทั้งคุ้นเคยกับสถานการณ์ความขัดแย้งและการต่อต้านนายกฯ และการที่จับคนร้ายได้แสดงถึงการข่าวที่ดีและจะทำให้มีการป้องกันแน่นหนามากขึ้น จะทำให้สังคมคาดหวังว่าสถานการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก แต่หากเป็นการจัดฉากจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นอีกแน่ ๆ

ldquo;กระบวนการสอบสวนของตำรวจในคดีนี้จึงมีความสำคัญยิ่ง รักษาการนายกฯ ไม่ควรชี้นำคดี ผ่านการให้สัมภาษณ์ทันทีหลังจากเหตุการณ์ โดยพยายามทำให้สังคมเข้าใจไปในทิศทางว่าเป็นการลอบสังหาร ขณะเดียวกันตำรวจก็ไม่ควรรีบรับลูกโดยตัดประเด็นการจัดฉากทิ้งอย่างรวดเร็ว

ผมไม่อยากให้เหตุการณ์ครั้งนี้ ซ้ำรอยเหตุการณ์วันที่ 3 มีนาคม 2544 ที่เครื่องบินคณะของนายกฯ กำลังจะเดินทาง เกิดระเบิดและเพลิงลุกไหม้ โดยหลังเหตุการณ์เพียง 1 วัน พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ว่าเป็นการลอบวางระเบิด ตามด้วยคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนที่ยืนยันว่า เป็นการวางระเบิดแน่นอน แต่หลังจากที่มีหลายหน่วยงานได้ศึกษา อาทิ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากรณีเครื่องการบินไทยระเบิด สภาผู้แทนฯ คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการคมนาคมแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดทั้งไทย-สหรัฐ กลับสรุปว่าเป็นอุบัติเหตุ