โพลล์แบบสร้างสรรค์ช่วยสร้างบรรยากาศการเลือกตั้งได้อย่างไร?


แหล่งที่มา : http://blogs.e-rockford.com/applesauce/files/2012/10/polls-header-image11.jpg

ในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่จัดขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2555 มีการทำสำรวจเพื่อทำนายผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาแบบแปลกๆ ขึ้นและได้สร้างบรรยากาศที่ดีและสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการทำสำรวจเพื่อทำนายผลการเลือกตั้ง อาทิเช่น การทำสำรวจจากยอดขายหน้ากากโอบามาและรอมนีย์ การสำรวจคนที่เลือกซื้อ

ถ้วยกาแฟที่มีรูปหน้าโอบามาและรอมนีย์ และการทำโพลล์สำรวจจากเด็กที่ยังไม่มีสิทธิเลือกตั้ง และผลโพลล์ที่ได้ค่อนข้างแม่นยำอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งนี้การสำรวจของรายการโทรทัศน์สำหรับเด็กของสถานีโทรทัศน์นิคเคิลโลเดียนสามารถทายผลการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกาที่ผ่านมาถูกถึง 5 ครั้งจาก 6 ครั้ง เนื่องจากเหตุผลที่ว่าเด็กอาจจะได้ยินพ่อแม่พูดคุยกันถึงการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
     การทำสำรวจแบบแปลกๆ นี้อาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "การทำโพลล์ให้เข้ากับกลุ่มบุคคล" ซึ่งหมายถึง การหาสิ่งที่เป็นตัวแทนของกลุ่มคนนั้นๆ โดยเลือกใช้สิ่งที่ชื่นชอบ เป็นรสนิยม รวมถึงค่านิยมในสังคมมาประยุกต์ใช้เป็นสื่อกลางการทำโพลล์ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้นและตรงกับกลุ่มบุคคลที่เป็นเป้าหมายของการทำสำรวจโพลล์ในแต่ละครั้ง การทำโพลล์แบบนี้มีการทำกันมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่จะมีการเลือกตั้งในสหรัฐอเมริกา จนอาจเรียกได้ว่าเป็นประเพณีไปแล้ว สิ่งที่น่าคิดต่อไปคือพลังของความแปลกและสร้างสรรค์ในการทำสำรวจผลเลือกตั้งนี้ ส่งผลดีอะไรต่อการเลือกตั้งบ้าง
     เมื่อพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายในการจัดทำ "โพลล์" เลือกตั้งที่ผ่านมา มีอัตราค่าจ้างในการสำรวจอยู่ที่ครั้งละประมาณ 100,000 บาทต่อเขตเลือกตั้ง และหากมีการทำโพลล์ต่อเนื่องทุกสัปดาห์เป็นระยะเวลาประมาณ 2 เดือน ค่าใช้จ่ายโดยรวมจะค่อนข้างสูงมาก ในขณะที่การจัดทำโพลล์แบบแปลกๆ แต่ถูกใจคน จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการแสวงหากลุ่มเป้าหมายของการสำรวจลงได้ เพราะความแปลกและความแตกต่างที่ไม่เหมือนใครนี้เอง ที่สามารถดึงดูดให้คนเข้ามาร่วมสนุกไปกับการทำโพลล์ได้มากขึ้น
     การออกแบบโพลล์ที่มีความแปลกใหม่ มีความแตกต่าง และเหมาะกับแต่ละกลุ่มคน จะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และนอกกรอบ เพื่อสร้างจุดสนใจที่ทำให้คนเกิดความรู้สึกอยากตอบคำถามที่ตั้งขึ้น ความน่าสนใจของการสำรวจจะสามารถช่วยลดความเอนเอียง (Bias) ในการให้ข้อมูล เมื่อเปรียบเทียบกับโพลล์แบบปกติที่ผู้ตอบแบบสอบถามอาจไม่อยากให้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง โพลล์ที่ออกแบบอย่างสร้างสรรค์และเหมาะกับกลุ่มคนจะเอื้อให้คนที่ตอบคำถามผ่านรสนิยมที่แต่ละกลุ่มบุคคลชอบ หรือผ่านพฤติกรรมปกติอย่างเป็นธรรมชาติ
     ความน่าสนใจของการทำโพลล์แบบสร้างสรรค์นี้ จะทำให้เกิดบรรยากาศที่ดีในการเลือกตั้ง และมีแนวโน้มที่ประชาชนจะออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากขึ้น เพราะประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมและเกิดการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่ส่งเสริมรูปแบบโพลล์เลือกตั้งที่หลากหลายอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น อันจะทำให้เยาวชนเห็นคุณค่าและประโยชน์ของการเป็นพลเมืองที่ดีในชาติ แทนที่จะมองเรื่องการเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ หรือเรื่องสกปรก น่าเบื่อ อีกทั้งเป็นการเปลี่ยนทัศนะคติของพ่อแม่ ผู้ปกครองที่มักจะสอนบุตรหลานว่าอย่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง
     ปัญหาสำคัญที่ต้องระมัดระวังของผลโพลล์เลือกตั้งต่างๆ ที่ผ่านมา คือ พรรคการเมืองมักใช้ผลโพลล์เป็นเครื่องมือเพื่อสร้างกระแสในการเลือกตั้ง และมีความเป็นไปได้ว่าผลโพลล์อาจจะมีวิธีการสุ่มตัวอย่างที่ทำให้ผลโพลล์เอนเอียงเข้าข้างผู้สมัครหรือพรรคการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือเพื่อให้เกิดการชี้นำกระแสสังคมให้เลือกผู้สมัครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แม้ว่า "คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)"จะพยายามป้องกันผู้สมัครเลือกตั้งใช้ประโยชน์จากโพลล์ เช่น การออกกฎหมายเลือกตั้งตามมาตรา 150 โดยห้ามมิให้มีการทำสำรวจที่เกี่ยวกับการลงคะแนนเลือกตั้งภายใน 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง เป็นต้น
     การส่งเสริมให้มีการทำโพลล์เลือกตั้งของสำนักโพลล์ต่างๆ หรือทำโพลล์อิสระให้มีรูปแบบหลากหลาย แปลกใหม่และสร้างสรรค์มากขึ้น จะทำให้มีผลโพลล์จำนวนมากออกมาสู่สาธารณชน อันจะเป็นประโยชน์อย่างมากที่จะไม่ให้ผลโพลล์เพียงบางสำนักชี้นำสังคมไทย และจะช่วยลดผลกระทบจากผลโพลล์ที่อาจกลายเป็นเครื่องชี้นำผลการเลือกตั้งได้ดียิ่งขึ้น
     การใช้ความคิดสร้างสรรค์และแนวทางใหม่ๆ ที่น่าสนใจมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการทางการเมือง น่าจะเปลี่ยนความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อการเมืองในลักษณะที่เป็นเรื่องน่าเบื่อ ให้กลายเป็นเรื่องแปลกใหม่และอาจช่วยให้ประชาชนหันมาสนใจการเมืองมากขึ้น


ศ.ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
นักวิชาการอาวุโส ศูนย์ศึกษาธุรกิจและรัฐบาล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์
kriengsak@kriengsak.comhttp://www.kriengsak.com