รัฐบาลไม่มีแผนแก้หนี้กองทุนน้ำมัน

ผมผิดหวังจากคำตอบที่ได้รับในสภาฯ จากการที่ผมได้ตั้งกระทู้ถามไปหลายเรื่องเกี่ยวกับมาตรการลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลและการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. และในวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมก็ต้องผิดหวังอีก เพราะ นายกฯ ยังคงไม่ได้ตอบคำถามของผมที่ได้ถามไป ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลไม่ได้มีแผนการลอยตัวราคาน้ำมันอย่างจริงจัง แต่มาตรการที่ประกาศใช้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดจากการที่กองทุนน้ำมันเข้าสู่ภาวะวิกฤตแล้ว ไม่สามารถอุดหนุนต่อไป จึงต้องดึงรายได้จากภาษีมาช่วยอุดหนุนราคาน้ำมันต่อ อันเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น

ปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่า ปัญหาหนี้กองทุนน้ำมันอยู่ในขั้น ldquo;วิกฤตrdquo; แล้ว เมื่อรวมภาระหนี้ของกองทุนทั้งหมด รวมภาระการอุดหนุนดีเซลจนถึงสิ้นปีนี้อีกประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท และรวมดอกเบี้ยพันธบัตร 5 ปีอีก 1.55 หมื่นล้านบาท พบว่ายอดหนี้กองทุนน้ำมันที่ต้องชำระทั้งสิ้นจะสูงถึง 1.085 แสนล้านบาท

ทางออกที่รัฐบาลควรรีบเร่งทำ ได้แก่ การทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อส่งสัญญาณให้ประชาชนทราบและร่วมกันรับภาระ และเสนอว่ารัฐบาลควรเร่งลอยตัวราคาน้ำมันให้เร็วที่สุดภายใน 3 เดือน เนื่องจากหากเลยไปจากช่วงนี้จะเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งราคาเชื้อเพลิงจะสูงขึ้นอีกครั้ง การลอยตัวจะช่วยลดภาระหนี้ของกองทุน และช่วยแก้ปัญหาการขาดดุลที่เกิดจากการนำเข้าน้ำมันได้บ้าง

นอกจากนี้ รัฐควรนำรายได้จากภาษีสรรพสามิต 1.4 หมื่นล้านบาท ที่รัฐบาลจะลดภาษีให้ผู้ใช้น้ำมันโดยคาดว่าจะยังเก็บภาษีได้ตามเป้าหมาย และเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท ที่มีอยู่ในงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม นำมาใช้หนี้ของกองทุนน้ำมัน ซึ่งรัฐบาลอาจจะขึ้นภาษีน้ำมันเบนซินเพื่อชดเชยรายได้แทนและควรวางแผนให้กองทุนน้ำมันนำรายได้มาคืนคลังในอนาคตด้วย

ส่วนผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น รัฐบาลควรกำหนดมาตรการลดภาษีนิติบุคคล เพื่อลดต้นทุนของผู้ผลิตสินค้าบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตอาหาร หรือสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าที่จำเป็นของประชาชน ซึ่งนับเป็นแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่ตรงจุดมากกว่า และทำให้ราคาน้ำมันสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง อันจะเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดดุล และลดภาระหนี้กองทุนน้ำมันอีกด้วย

รัฐบาลควรมีแนวทางที่ชัดเจนในการการลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลและการลดภาระหนี้กองทุนน้ำมันในระยะยาว เพื่อจะไม่สร้างภาระให้กับประเทศชาติและประชาชนในอนาคต ไม่ควรใช้วิธีเตะโด่งปัญหาไปข้างหน้าด้วยวิธีเช่นที่กำลังทำอยู่นี้

admin
เผยแพร่: 
0
เมื่อ: 
2005-06-08