ไม่อยากตกงาน ต้องพร้อมสู่ ?ประชาคมอาเซียน?
แหล่งที่มาของภาพ : http://cdn.mommyish.com/files/2012/09/lost-job.jpg
ในช่วงนี้ ประเทศไทยมีการกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนกันมากขึ้น โดยเฉพาะการเตรียมด้านการศึกษาสำหรับเด็ก ๆ แต่การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 หรือในอีก 3 ปี ข้างหน้านี้ ไม่เพียงเป็นเรื่องของเด็ก ๆ ที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ คนทำงานทุกคน ทุกเทศทุกวัย และทุกอาชีพ ต้องเตรียมพร้อมด้วย เพราะทุกประเทศอาเซียนต้องเปิดเสรีให้กับการเคลื่อนย้ายสินค้า การบริการ การลงทุน เงินทุน และแรงงานมีฝีมือระหว่างกันอย่างเสรี
หากเราพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน เราย่อมสามรถแข่งขันในตลาดแรงงานระดับอาเซียนได้ เราจะมีโอกาสได้งานที่ ?ดีกว่าและก้าวหน้ามากกว่าเดิม? แต่ในทางตรงกันข้าม เราอาจต้อง ?ตกงาน? ถูกแรงงานจากประเทศอาเซียนมาแย่งชิงงานไป เพียงเพราะเราขาดความรู้ความสามารถและทักษะบางอย่างที่จำเป็นนั่นเอง
ดังนั้น คนทำงานทุกคนจึงไม่ควรนิ่งนอนใจ แต่ต้องวาดวิสัยทัศน์และเตรียมความพร้อมอนาคตของเรา ให้สามารถอยู่รอดได้อย่างมั่นคง โดยต้องพร้อมในเรื่องต่าง ๆ อาทิ
รู้ลึกเกี่ยวกับประชาคมอาเซียน เราจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาเซียนในด้านต่าง ๆ อาทิ การเรียนรู้จักประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนทั้งสภาพภูมิประเทศ ระบอบการเมืองการปกครอง วัฒนธรรม การศึกษาวัฒนธรรมของคนในประเทศต่าง ๆ ศึกษาการเปลี่ยนแปลงเมื่อเปิด ?ประชาคมอาเซียน? ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านใดบ้าง และจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยและตัวเราอย่างไรบ้าง โดยการศึกษาจากการอ่าน เพื่อให้เกิดความพร้อม หากเราต้องไปทำงานในประเทศอื่น ๆ และพร้อมทำงานร่วมกับเพื่อนบ้านอาเซียนในอนาคต
เยี่ยมเยียนประเทศเพื่อนบ้าน หากมีเวลาเราควรเดินทางไปท่องเที่ยวในลักษณะทัศนศึกษาประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน เพื่อให้เกิดความรู้จักและคุ้นเคยในภาษาวัฒนธรรม อีกทั้งอาจช่วยให้เห็นโอกาสในการทำงานและการทำธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านที่เราไปเยือนด้วย
ไม่หยุดติดตามเทคโนโลยี เพื่อยกระดับทักษะการทำงาน เราต้องไม่หยุดในการติดตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ไม่ใช่เพื่ออวดความทันสมัย แต่เพื่อใช้เป็น ?เครื่องมือ? และเป็นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพในการทำงานอย่างไม่จำกัด ดังนั้น เราจึงต้องไม่ปิดโอกาสในการติดตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีต่าง ๆ และเรียนรู้ที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับงานที่เราทำอยู่เสมอ
ฝึกภาษาอังกฤษ การรู้เพียงภาษาไทย โดยไมรู้ภาษาต่างประเทศเลย จะทำให้เราเหมือนเป็น "คนพิการทางภาษา". และเท่ากับจำกัดโอกาสความก้าวหน้า ในอนาคตของเรา และอาจทำให้เราเป็นผู้พ่ายแพ้ได้ในเวทีอาเซียนได้ ดังนั้น อย่างน้อยที่สุด เราจำเป็นต้องมีทักษะภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี สามารถสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งการพูด การเขียน การอ่าน และการฟัง ซึ่งตอนนี้หากเรารู้ตัวว่ายังอ่อนด้อยทักษะทางภาษาอยู่ เราจำเป็นต้องต้องหาเวลาเรียนรู้และฝึกฝนอย่างจริงจัง และควรฝึกให้ครบทั้งพูด ฟัง อ่าน และเขียน เพื่อให้เราเป็นแรงงานที่มีคุณภาพเทียบเท่าหรือเหนือกว่าแรงงานในประเทศอาเซียน
ฝึกภาษาเพื่อนบ้าน อย่างน้อย 1 ภาษา การเรียนภาษาเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นประเทศใดก็ตามย่อมเป็นการช่วยเพิ่ม ?โอกาส? ความก้าวหน้า เพราะนอกจากจะช่วยให้เราเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการเพิ่มโอกาสและช่องทางที่เราจะสามารถเข้าไปทำงาน หรือเข้าไปทำธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศนั้น ๆ ด้วย
สำรวจจุดอ่อน-จุดแข็งของตนเองและเพื่อนบ้าน แม้ว่าหลายประเทศในอาเซียนจะมี ?ความเป็นเอเซีย? บางอย่างที่คล้าย ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น เชื้อชาติ ศาสนา ค่านิยม สีผิว และหน้าตา เช่น แทบทุกประเทศจะมีคนเชื้อสายจีน อินเดีย คนพุทธ คนมุสลิม อาศัยอยู่ร่วมกันจนเกิดความเคยชิน แต่ถึงกระนั้น ก็ยังคงมีสภาพสังคม วัฒนธรรม ค่านิยม และลักษณะนิสัยบางอย่างที่มีความแตกต่างกันในระหว่างคนแต่ละเชื้อชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราควรเรียนรู้จักเพื่อนบ้าน รู้จุดอ่อนและจุดแข็ง ของคนในแต่ละประเทศ ซึ่งย่อมช่วยให้เราเรียนรู้ว่าจะทำงานและร่วมมือกันในด้านต่าง ๆ ได้อย่างไร
ขณะเดียวกัน เราควรรู้จักจุดอ่อนจุดแข็งของตนเอง และเรียนรู้ที่จะใช้จุดเด่นแห่งความเป็นไทย ให้เป็นประโยชน์ในการทำงาน ซึ่งข้อดีของความเป็นไทยที่เป็นลักษณะนิสัยของเราที่เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป อาทิ ความมีไมตรีจิต ความมีน้ำใจ การยินดีช่วยเหลือเกื้อกูล การมีใจรักในการบริการ เราควรใช้จุดเด่นเหล่านี้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการแข่งขันกับแรงงานในประเทศต่าง ๆ ที่สำคัญ เราต้องกำจัดจุดอ่อนด้านลักษณะนิสัยที่ไม่เหมาะสม หรือเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ไม่สามารถแข่งขันได้ เช่น ความไม่มีวินัย ความรักสบาย เป็นต้น
หากคนทำงานทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมเต็มที่ เมื่อประตูแห่งประชาคมอาเซียนถูกเปิดออก เราย่อมได้เป็นส่วนหนึ่งใน ?ความสำเร็จ? ของประเทศไทย ที่สามารถมีส่วนร่วมสร้างประชาคมอาเซียนที่มีพลังได้ในประชาคมโลก
ศ.ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
นักวิชาการอาวุโส ศูนย์ศึกษาธุรกิจและรัฐบาล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
kriengsak@kriengsak.com, http://www.kriengsak.com
ศ.ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
นักวิชาการอาวุโส ศูนย์ศึกษาธุรกิจและรัฐบาล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
kriengsak@kriengsak.com, http://www.kriengsak.com
Tags:
Post date:
Thursday, 7 February, 2013 - 18:17