เกียรติระบบ : Honour System สังคมให้เกียรติ หลู่เกียรติ ทอนเกียรติ ตู่เกียรติ

“คำพูดบอกเรื่องตัวเรา สิ่งที่เราพูดเรื่องตัวเราบอกว่าเราคิดว่าเราเป็นคนเช่นไร สิ่งที่เราพูดเรื่องคนอื่นบอกว่าเราเป็นคนเช่นไร” ดร. แดน แคนดู


คำพูดดังกล่าวนี้ ผมนำเสนอเป็นอินโฟกราฟฟิค (infographic) เพื่อให้ข้อคิดกับสังคม

การให้เกียรติเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการอยู่ร่วมกันเป็นสังคม มนุษย์โดยทั่วไปชอบการได้รับเกียรติ ไม่ชอบการถูกดูหมิ่น


พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 (พจนานุกรม, 2554) นิยาม “เกียรติ” ว่า “น. ชื่อเสียง, ความยกย่องนับถือ, ความมีหน้ามีตา” สังคมที่มีการให้เกียรติกันและกันอย่างเหมาะสมสะท้อนความมีอารยะหรือการมีความเจริญงอกงามในสังคม


ตลอดประวัติศาสตร์สังคมมนุษย์มีระบบเกียรติ (Honour System) มาโดยตลอด เช่น การจัดชนชั้นทางสังคม แบ่งเป็นชนชั้นปกครองกับชนชั้นผู้ถูกปกครอง การแสดงออกถึงความกตัญญูรู้คุณให้เกียรติพ่อแม่ การยกย่องให้เกียรติครูบาอาจารย์ เป็นต้น แม้สังคมจะยอมรับการมีระบบเกียรติ แต่โดยทั่วไปยังมีการ หลู่เกียรติ ทอนเกียรติ และตู่เกียรติ ผ่านการแสดงออกลักษณะต่าง ๆ ของคนในสังคม เช่น การดูหมิ่นทางชนชั้น การไม่ให้หรือทำลายเครดิตกันและกัน เป็นต้น


กรณีของประเทศไทย ผมวิเคราะห์ว่า เป็นสังคม ให้เกียรติ หลู่เกียรติ ทอนเกียรติ และตู่เกียรติ ดังนี้


ให้เกียรติ แสดงออกเป็นการยอมรับใน ความดี ความรู้ ความสามารถ คุณลักษณะชีวิต ของบุคคล เช่น การให้อยู่ในตำแหน่งสำคัญ การให้เป็นที่ปรึกษา เป็นต้น รวมถึงการยกย่อง ให้ความสำคัญ ทำให้มีชื่อเสียง สะท้อนผ่านทางคำพูดและการกระทำ เช่น การให้รางวัลในสังคม การยกย่องเชิดชูบุคคลสำคัญ การพูดถึง ความเก่ง ความรู้ ความสามารถ ความดี ของผู้อื่นในที่สาธารณะ เป็นต้น


หลู่เกียรติ แสดงออกเป็นการดูหมิ่นผู้อื่น เช่น ลูกดูถูกพ่อแม่แก่ชรา การศึกษาน้อยหรือไม่มีการศึกษา การส่งตัวแทนไม่เหมาะสมเข้าร่วมงาน การแต่งตัวไม่เหมาะสมกับงาน ไม่ตามธีม สวมใส่ชุดลำลองในงานทางการ เป็นต้น รวมถึงการทำให้อับอาย รู้สึกขายหน้า การเปิดเผยความผิดหรือความบกพร่องของผู้อื่นในที่สาธารณะ

ทอนเกียรติ แสดงออกเป็นการปฏิบัติไม่สมเกียรติ น้อยกว่าที่บุคคลควรจะได้รับ เป็นการลดเกียรติของผู้อื่น เช่น การใส่ตำแหน่งผิดหรือต่ำกว่าตำแหน่งจริง การปฏิบัติไม่เหมาะสมกับฐานะ น้อยกว่าฐานะ เป็นต้น การทอนเกียรติแง่หนึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการไม่ยอมรับใน ความดี ความรู้ ความสามารถ หรือคุณลักษณะชีวิต ของบุคคลด้วยเช่นเดียวกัน เช่น ลูกสมัยใหม่มองพ่อแม่ว่าเลี้ยงดูตนเองตามหน้าที่ เป็นต้น


ตู่เกียรติ แสดงออกเป็นการแย่งผลงาน ไม่ให้เครดิต เช่น ที่ทำงาน หัวหน้าแย่งเครดิตลูกน้องหรือลูกน้องแย่งเกียรติหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานแย่งผลงาน การเมือง พรรคการเมืองลอกนโยบาย โซเชียลมีเดีย โพสต์บทความโดยไม่ให้เครดิต วงการเพลง ไม่ให้เครดิตเหมาะสมแก่ผู้ที่ทำงานให้กับตน นำเพลงผู้อื่นมาร้องจนคนคิดว่าเป็นเพลงของตน วิชาการ คัดลอกผลงาน ทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดคิดว่าเป็นผลงานหรือความคิดของตน สร้างภาพ ทำให้ผู้อื่นเห็นเหมือนทำจริง เป็นต้น


สังคมไทยเป็นสังคมที่มีทั้ง ให้เกียรติ หลู่เกียรติ ทอนเกียรติ และตู่เกียรติ การจะพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมศิวิไลซ์ สิ่งสำคัญประการหนึ่งต้องพัฒนาคนไทยให้มีการให้เกียรติกันและกันอย่างเหมาะสม

 

สังคม หลู่เกียรติ ทอนเกียรติ ตู่เกียรติ ทำให้เกิดผลเสียอย่างไร?


สังคมที่คนไม่ให้เกียรติ หลู่เกียรติ ทอนเกียรติ ตู่เกียรติ ส่งผลเสียหลายประการ ดังนี้


ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจลดลง เมื่อคนในสังคมไม่ให้เกียรติกัน ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจระหว่างบุคคลจะลดลง ทำให้ยากต่อการสร้างความร่วมมือและความสามัคคีในชุมชนหรือองค์กร เช่น หัวหน้างานแย่งเครดิตผลงานลูกน้อง ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่างลูกน้องและหัวหน้างาน เป็นต้น


ความขัดแย้งและความรุนแรงเพิ่มขึ้น การที่คนไม่ให้เกียรติกันสามารถทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น และบางครั้งอาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา แทนที่จะใช้การสื่อสารที่สร้างสรรค์ เช่น สถานการณ์ความขัดแย้งต่าง ๆ ในสังคม การใช้คำพูดก้าวร้าว ยั่วยุอีกฝ่าย ทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น เป็นต้น


ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ในองค์กรหรือที่ทำงาน การไม่ให้เกียรติกันสามารถทำให้เกิดความเครียดและความไม่พอใจในการทำงาน ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงและเกิดบรรยากาศที่ไม่ดีในการทำงานร่วมกัน เช่น หัวหน้างานดุด่าว่ากล่าวลูกน้องต่อหน้าพนักงานคนอื่นเป็นประจำ สั่งสมความรู้สึกไม่พอใจ ทำให้ลูกน้องไม่ให้ความร่วมมือ เป็นต้น


ความรู้สึกมีคุณค่าน้อยลง กรณีคนถูกหลู่เกียรติหรือทอนเกียรติ บางคนรู้สึกมีคุณค่าต่ำและสูญเสียความภาคภูมิใจในตนเอง ทำให้มีผลต่อสุขภาพจิต บุคลิกภาพ และพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น เด็กถูกบูลลี่ ไม่อยากไปโรงเรียน ปลีกตัวจากสังคม บางคนคิดฆ่าตัวตาย เป็นต้น


การขาดการพัฒนาและความคิดสร้างสรรค์ สังคมที่คนไม่ให้เกียรติกันมักไม่ส่งเสริมให้มีการแสดงความคิดเห็นที่หลากหลายและสร้างสรรค์ ซึ่งจะทำให้การพัฒนาในด้านต่าง ๆ ช้าลงหรือหยุดชะงัก เช่น ทำให้เกิดบรรยากาศเป็นพิษ (toxic) ในที่ทำงาน พนักงานหมดไฟ ขาดกำลังใจในการทำงาน เป็นต้น

การลดความสามารถในการแข่งขัน เมื่อสังคมหรือองค์กรไม่สามารถทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและไม่สามารถพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ จะทำให้ขาดความสามารถในการแข่งขันในระดับประเทศหรือระดับโลก เช่น ทำให้เกิดบรรยากาศในสังคม คนไม่กล้าริเริ่มสิ่งใหม่ เป็นต้น


การไม่ให้เกียรติ หลู่เกียรติ ทอนเกียรติ ตู่เกียรติ ส่งผลกระทบมากกว่าระดับปัจเจกบุคคล แต่ส่งผลกระทบต่อทั้งชุมชนและสังคมการอยู่ร่วมกัน

 

การสร้างสังคมที่ให้เกียรติกันทำได้อย่างไร?


การสร้างสังคมที่ให้เกียรติกันต้องการการแก้ไขอย่างรอบด้าน ตั้งแต่การศึกษาและการเลี้ยงดูไปจนถึงการพัฒนาทักษะทางสังคมและการสื่อสารในระดับบุคคลและสังคมโดยรวม เช่น


ส่งเสริมค่านิยมการให้เกียรติ มองเห็นสิ่งดีในตนเอง มองเห็นสิ่งดีในผู้อื่น ทำให้ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างให้เกียรติ แบ่งชนชั้นด้วยความดี ยกย่องคนทำดี (เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์, 2555) สร้างความตระหนักทุกคนมีเอกลักษณ์ มีอัตลักษณ์ มีค่านิยมพูดสิ่งดีของผู้อื่นในที่สาธารณะ ไม่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกอับอาย


บ้านสามหลังเป็นแบบอย่าง เริ่มต้นจากบ้านสามหลัง (เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์, 2560) เป็นแบบอย่างทำให้ดู บ้านหลังที่หนึ่ง สามีภรรยาให้เกียรติกัน ลูกให้เกียรติพ่อแม่ บ้านหลังที่สอง ลูกศิษย์ให้เกียรติครูบาอาจารย์ ลูกน้องให้เกียรติหัวหน้างาน บ้านหลังที่สาม ลูกบ้านให้เกียรติ ผู้นำ ผู้ปกครองบ้านเมือง


สร้างบรรทัดฐานการปฏิบัติต่อกัน ทุกความสัมพันธ์ กำหนดลักษณะพฤติกรรมพึงประสงค์ ให้เกียรติกันและกัน ปลูกฝังในบ้านทุกหลังตั้งแต่ครอบครัว สถาบันการศึกษา ที่ทำงาน และสังคมส่วนรวม เช่น การเป็นสามีที่ดี การเป็นภรรยาที่ดี การเป็นลูกที่ดี การเป็นพี่น้องที่ดี การเป็นญาติที่ดี การเป็นนักเรียน นักศึกษา ลูกศิษย์ ที่ดี เป็นต้น


ระบบเกียรติหรือการให้เกียรติเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการส่งเสริมความเจริญงอกงามของสังคม ด้วยการส่งเสริมให้ทุกคนในสังคมให้เกียรติกันและกันอย่างเหมาะสม ทำสังคมให้เป็นสังคมที่น่าอยู่สำหรับทุกคน

 

แหล่งที่มา : Mix Magazine
ก.ค. 2024 

แหล่งที่มาของภาพ : https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSwFipOMz7tjTI_MpMpy4P64jmVOlYcKWNK_g&s  

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
นักวิชาการอาวุโส มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ประธานสถาบันการสร้างชาติ (NBI)
ประธานสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (IFD)
kriengsak@kriengsak.com, www.drdancando.com
www.facebook.com/drdancando   
  

Catagories: