ชีวิตคนไทยก่อนเกิดและหลังตายปี 2020
หนุ่มสาวที่คิดจะสร้างครอบครัวใหม่ ได้โอกาสหลายปีก่อนแต่งงาน เข้าหลักสูตรของโรงเรียนพ่อแม่เพื่อเตรียมตัวอย่างมีองค์ความรู้มีทักษะ ต่างๆ และบุคลิกภาพที่เอื้อเป็นพ่อแม่ที่มีคุณภาพ
เด็กในครรภ์จะได้รับอาหารที่มีประโยชน์และเพียงพอ แม่จะได้รับการดูแลในเรื่องสวัสดิภาพ ได้พักจากงานเมื่อใกล้คลอดเมื่อเกิดมา เด็กทุกคนจะเกิดในสถานพยาบาลที่ได้มาตราฐาน ได้รับวัคซีนครบถ้วนจนถึงเกณฑ์
เด็กในครรภ์จะได้รับอาหารที่มีประโยชน์และเพียงพอ แม่จะได้รับการดูแลในเรื่องสวัสดิภาพ ได้พักจากงานเมื่อใกล้คลอดเมื่อเกิดมา เด็กทุกคนจะเกิดในสถานพยาบาลที่ได้มาตราฐาน ได้รับวัคซีนครบถ้วนจนถึงเกณฑ์
เมื่อเจ็บป่วยจะมีโรงพยาบาลคุณภาพดูแล ไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของประเทศ
ไม่ว่าพ่อแม่เด็กจะยากดีมีจน ก็ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญวิธีการเลี้ยงดูลูกอย่างมีคุณภาพ
หากต้องการ ก็มีสถานรับเลี้ยงเด็กเพียงพอจะดูแลเด็กทุกฐานะ เด็กทุกคนได้รับอาหารที่มีประโยชน์ เพียงพอจนเข้าโรงเรียน
เมื่อสู่วัยเรียน เด็กทุกคนได้เรียนในโรงเรียนที่มีคุณภาพ แต่ละห้องมีนักเรียนไม่มากนัก ครูที่มีคุณภาพและคุณธรรมดูแลทั่วถึง
เด็กทุกคนจะพูดได้อย่างน้อย 3 ภาษา เรียนรู้วิชาความรู้และวิชาชีพคู่คุณธรรม เรียนรู้ความคิดและวิชาการเรื่องประเทศเราและประเทศอื่นในสากลโลกด้วย
คนจากประเทศเพื่อนบ้านจะมาเรียนในประเทศไทย นักเรียนไทยจะมีความเป็นนานาชาติพร้อมความเป็นไทย เข้าใจวัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมอื่นอย่างดี
เมื่อเรียนจบแล้ว ทุกคนจะคิดริเริ่มเป็น ทำงานเป็น แก้ปัญหาเป็น อยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมและโลกได้อย่างเป็นสุข ใครอยากเรียนสูงขึ้นก็มีโอกาสเรียนไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร
ใครอยากทำเกษตร ก็มีที่ดินของตนเอง รู้วิธีเพาะปลูกให้ได้ผลดี มีแหล่งเงินให้ทั่วถึง ทำตลาดเป็น ขายสินค้าได้ราคายุติธรรม
ใครอยากรับจ้างก็มีบริษัทดี ๆ ให้เลือกมากมาย ทั้งบริษัทไทยและบริษัทต่างชาติ พนักงานได้รับสวัสดิการตามควร ไม่ถูกเอาเปรียบ มีโอกาสพัฒนาตนเองเสมอ หากตกงานก็มีรายได้พอประทังระหว่างหางานใหม่
ใครอยากทำกิจการเอง ก็มีแหล่งทำกินปลอดภัย ไม่ต้องจ่ายใต้โต๊ะ มีแหล่งความรู้และเงินทุนเพื่อพัฒนาขยายกิจการ หากมีกำไรก็จะคืนกลับบางส่วนให้กับสังคมอย่างสม่ำเสมอ
ก่อนเจ็บป่วย จะรู้วิธีป้องกันดูแลตนเอง เพื่อไม่เป็นภาระกับผู้อื่นมากนัก
เมื่อเจ็บป่วย ทุกคนได้รับบริการทางการแพทย์พยาบาลอย่างถูกวิธีมีคุณภาพ ไม่ว่าจะมั่งมีหรือยากจน หรือมีชาติเชื้อพงษ์พันธุ์ใด
เมื่ออยากพักผ่อน ก็มีสวนสาธารณะเขียวชอุ่มใกล้บ้าน มีรายการโทรทัศน์วิทยุประเทืองปัญญาคู่กับบันเทิงเริงรมย์ มีหนังสือดี ๆ ให้อ่านสำหรับคนทุกวัย นาฏศิลป์ ดนตรี และงานศิลป์อื่น ๆ ให้จรรโลงใจ
เมื่อมีโอกาสว่างจากงานประจำ จะมีงานอาสาสาธารณะมากมายให้ทำจนพอใจว่า ตนได้ทำประโยชน์กับสังคมด้วย
เมื่อหิว ก็มีอาหารปลอดภัยไว้รับประทาน มีน้ำบริสุทธิ์ไว้ดื่ม มีอากาศบริสุทธิ์หายใจ
เมื่อต้องเดินทางหรือขนส่งสินค้า ก็มีระบบขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพ รวดเร็ว ราคายุติธรรม เชื่อมต่อถึงทุกส่วนของประเทศและเพื่อนบ้าน เดินทางในเมืองก็ไม่ต้องใช้รถส่วนตัวโดยไม่จำเป็น
เมื่อต้องไปติดต่อสัมพันธ์กับคนไทยในต่างถิ่น จะไม่รู้สึกแตกต่าง แปลกแยก แม้จะสื่อถึงกันด้วยต่างภาษา ศาสนา วัฒนธรรม คนไทยจะยอมรับความหลากหลายแต่อยู่ร่วมกันอย่างมีเอกภาพได้
เมื่อต้องค้าขายกับต่างประเทศ ก็ไม่ยากนัก เพราะคนทั่วโลกรู้จักและเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าไทย แบรนด์ของไทยขายได้ทั่วโลก ไม่ต้องเลียนแบบใคร ทุกชาติยอมรับความซื่อตรงของผู้ประกอบการไทย
เมื่อนึกถึงคนไทยที่สร้างชื่อเสียงระดับโลก จะมีให้นับไม่หวาดไม่ไหว คนไทยยืนในเวทีโลกได้อย่างสง่างาม
สังคมมีชื่อมีแป ไม่มีการทำตามอำเภอใจ คนรู้ทั้งสิทธิและหน้าที่ควบคู่กัน ทุกคนมีส่วนในการวินิจฉัยโชคชะตาทางการเมือง เศรษฐกิจ นโยบายต่าง ๆ
เมื่อแก่เฒ่าก็ได้ประโยชน์ตอบแทนจากการออมและการประกันสังคมประกันประกันสุขภาพตามที่ได้จ่ายบำรุงตลอดมา
เมื่อตายจากไป ก็รู้ว่าจะมีคนจำนวนมากคิดถึงความดีงามที่เคยสร้างไว้อย่างชื่นชม
ด้วยแรงบันดาลใจ ถึงสังคมที่ผมปรารถนาอยากมีส่วนทำให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ผมได้เขียนบันทึกไว้เมื่อหลายปีก่อน ด้วยความหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่า วันหนึ่งประเทศไทยจะก้าวไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วได้ภายในปี 2020 จะเป็นสังคมที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยไม่ขึ้นกับฐานะทางเศรษฐกิจ หรือความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา จะเป็นสังคมที่มีความเป็นธรรม มีเสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ เป็นสังคมที่มีประสิทธิภาพ ยึดหลักความสามารถ จะเป็นสังคมที่ปกครองด้วยหลักนิติธรรม คุณธรรม จะเป็นสังคมที่เปิดโอกาสให้กับทุกคนในการพัฒนาตนเอง และได้ใช้ศักยภาพของตนเองอย่างสูงสุดเพื่อประโยชน์กับผู้อื่น จะเป็นสังคมที่โลกยอมรับและยืนหยัดในเวทีโลกได้อย่างภาคภูมิ
ตลอดเวลา 30 กว่าปีที่ผ่านมาหลังจากจบปริญญาเอกกลับมารับราชการและงานนอกราชการ ผมได้ใช้ความสามารถทุกอย่างที่มีในชีวิตเพื่อรณรงค์ ส่งเสริม และผลักดันทุกทาง ให้ประเทศไทยขยับก้าวพัฒนาไปใกล้กับภาพเหล่านี้ จนทุกวันนี้ วันที่สังคมไทยแตกแยกกันอย่างรุนแรงโดยที่ยังไม่เห็นทางออก ความหวังเหล่านี้ยังไม่หมดไป ผมยังคงเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า ประเทศไทยยังมีศักยภาพ คนไทยยังมีความสามารถที่จะพาประเทศให้ก้าวไปเป็นอย่างที่ผมเขียนไว้ได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือกันของคนไทยทุกคนที่ช่วยกัน ?อารยาภิวัฒน์? ประเทศไทยอย่าง ?ครบวงจร? ทุกด้าน ทุกมิติ
เราเริ่มได้ และต้องเริ่มวันนี้ครับ รอต่อไปไม่ได้อีกแล้วครับ
ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
Post date:
Tuesday, 7 January, 2014 - 12:51