ปลูกต้นไม้แห่งมิตรภาพ

เพื่อนคือบุคคลที่ดีที่สุดคนหนึ่งที่เราพึงมีในชีวิตนี้ ดังที่ ราฟท์ วาลโด อีเมอร์สัน ได้กล่าวไว้ว่า

ldquo;เพื่อนถือได้ว่าเป็นงานชิ้นเอกของธรรมชาติrdquo; (A friend may well be reckoned the masterpiece of nature. : Raph Waldo Emerson 1803-1882)
เพื่อน คือ บุคคลที่เรารักใคร่ชอบพอ มีความเข้าใจกัน เป็นผู้ร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมแลกเปลี่ยนทัศนคติ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เพื่อนนับเป็นบุคคลสำคัญยิ่งตั้งแต่วัยเด็ก แต่น่าเสียดายที่เพื่อนกลับเป็นบุคคลที่เราให้ความสำคัญลดลงไปเรื่อย ๆ ตามวัยที่เปลี่ยนไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อก้าวสู่วัยทำงาน หนุ่มสาวจำนวนมากเริ่มแยกตัวออกจากกลุ่มเพื่อนและไปใช้เวลากับการทำงาน ใช้เวลากับคนรัก ครอบครัวเป็นหลัก เพื่อนจึงมีความสำคัญน้อยลงไปเรื่อย ๆ ตามวัยโดยที่เราไม่รู้ตัว

ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วมิตรภาพระหว่างเพื่อนเป็นสิ่งที่มีคุณค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีเพื่อนแท้ที่สามารถสื่อสารระบายความในใจหรือเป็นกำลังใจให้แก่กันได้ เราจึงควรเห็นคุณค่าของการมีเพื่อนและเห็นคุณค่าของการรักษามิตรภาพความเป็นเพื่อนไว้ให้มั่นคง โดย ขั้นตอนในการสานสัมพันธภาพนั้นเริ่มต้นจาก

สำรวจสถานะเพื่อนรอบข้าง

ถามตัวเองว่าในเวลานี้ ใครเป็นเพื่อนที่เราสนิทสนมที่สุด? มีจำนวนกี่คน? เรามีโอกาสใช้เวลาด้วยกันมากน้อยเพียงใด? ลองเขียนรายชื่อเพื่อนทั้งหมดลงบนกระดาษ เรียงลำดับตามความเหมาะสม รวมทั้งรายชื่อเพื่อนเก่าในอดีตที่เราไม่ได้ติดต่อมาเป็นเวลานานโดยตระหนักว่าความสำคัญของการมีเพื่อน ไม่ได้อยู่ที่เรามีเพื่อนมาแล้วกี่คนในชีวิตนี้ แต่อยู่ที่เรามีเพื่อนเหลืออยู่กี่คนในยามวิกฤติชีวิตของเราต่างหาก

สำรวจตัวเองว่าเราเป็นคนประเภทใด

เราเป็นพวกที่ชอบพบปะพูดคุยกับผู้อื่น หรือชอบเก็บตัวอยู่เงียบ ๆ คนเดียว หรือไม่เคยคิดว่าจะสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่นเลยเพราะไม่เห็นว่ามีความสำคัญ โดยหากสำรวจพบว่ามีนิสัยบางประการที่เป็นอุปสรรคต่อการสร้างมิตรภาพกับผู้อื่น เราควรรีบเปลี่ยนแปลง

สานต่อมิตรภาพเดิม
การสานต่อมิตรภาพเดิมที่เราเคยมีให้กับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้ติดต่อกันมาเป็นเวลานาน โดยอาจเริ่มจากการโทรศัพท์ส่ง อีเมล์ หรือเขียนจดหมายไปหา พูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบหรือพยายามพบปะสังสรรค์ในงานต่าง ๆ อาทิในงานเลี้ยงรุ่นงานเลี้ยงปีใหม่หรือในงานแต่งงานเพื่อนร่วมรุ่น เป็นต้น
ริเริ่มมิตรภาพใหม่
โดยเริ่มจากการมีอัธยาศัยไมตรีที่ดียิ้มแย้มแจ่มใสพูดคุยทักทายกับผู้อื่นก่อนอย่างเป็นกันเอง มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ใส่ใจและจดจำรายละเอียดของผู้ที่เรารู้จักเป็นครั้งแรกอาทิ ชื่อชื่อเล่น นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ วันเกิดที่ทำงาน อุปนิสัย ความชอบ ฯลฯโดยจัดเก็บนามบัตรหรือจดบันทึกทำเป็นทะเบียนไว้อย่างเป็นระบบ เพื่อประโยชน์ในการสานสัมพันธ์ต่อไป
สานต่อมิตรภาพให้ยั่งยืน การสานต่อมิตรภาพให้ยั่งยืนยาวนานได้นั้นจำเป็นต้องhellip;hellip;

มีการสื่อสารและใช้เวลาร่วมกันอย่างต่อเนื่องตัวอย่างเช่น มีการส่งข่าวสารรายสัปดาห์ถึงกันเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอทางอีเมล์ หรือทางโทรศัพท์ การเปิดเว็บไซต์เพื่อเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูลในกลุ่มhellip;มีการนัดทำกิจกรรมร่วมกัน

มีการดูแลเอาใจใส่เกื้อกูลระหว่างกันความเป็นเพื่อนจะยั่งยืนยาวนานหากเรามีมิตรจิตมิตรใจที่ดีต่อกัน ห่วงใยเอื้ออาทร และเห็นคุณค่าเพื่อนของเราเสมอแม้ในเรื่องเล็กๆ น้อย ๆ

รับผิดชอบตนเองไม่ทำให้เพื่อนเดือนร้อนตั้งเป้าหมายว่าจะรับผิดชอบตนเองและครอบครัวเป็นอย่างดี ควรมีความเกรงใจพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ให้ตนเองเป็นภาระแก่เพื่อนหรือทำให้เพื่อนต้องลำบากใจ ซึ่งอาจส่งผลให้มิตรภาพที่เคยมีระหว่างกันต้องล่มสลายลงในที่สุด

สานสัมพันธ์เสมอแม้มีเรื่องไม่เข้าใจกันไม่ใช่พร้อมที่จะตัดความสัมพันธ์กับเพื่อนอย่างงายดายเมื่อเพื่อนทำบางสิ่งไม่ถูกใจเรา ซึ่งหากเพื่อนทำไม่ถูกต้องเราควรที่จะเตือนสติกันและกันด้วยความรักไม่ใช่ด้วยการต่อว่าที่รุนแรง และยอมรับฟังคำแนะนำจากเพื่อนในยามที่เราทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องด้วยใจยินดีและพร้อมแก้ไขในจุดที่บกพร่องนั้น

การจะสร้างมิตรภาพความเป็นเพื่อนได้อย่างยั่งยืนนั้นจำเป็นต้องเริ่มต้นตั้งแต่บัดนี้ ดังที่ผมเขียนไว้ในหนังสือ "ข้อคิดเพื่อมิตรภาพ" ว่า ldquo;สัมพันธภาพที่ดีเป็นเหมือนการปลูกต้นไม้ ต้นไม้จะเติบโตได้ถ้าได้รับความทะนุถนอมและสนใจดูแลเอาใจใส่ เพื่อนก็เช่นเดียวกัน เราต้องหมั่นดูแลรักษา ทะนุถนอมความสัมพันธ์ไว้เสมอไป
admin
เผยแพร่: 
หนังสือพิมพ์พิษณุโลกทูเดย์
เมื่อ: 
2007-06-01