คำตอบสุดท้ายไม่ใช่ตลาดหลักทรัพย์
หลังจากที่ศาลปกครองมีคำสั่งระงับการกระจายหุ้น บริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) ไว้ชั่วคราว เจ.พี.มอร์แกน ประเทศไทย ในฐานะที่ปรึกษาการเงินกฟผ.เนื่องจากมีการสั่งจองซื้อหุ้นจากนักลงทุนต่างประเทศแล้ว 4 หมื่นล้านบาท ทำให้ กฟผ.เสียหาย และกฟผ.อ้างว่าอาจส่งผลให้ต้องมีการปรับค่าไฟขึ้น เนื่องจาก กฟผ.ต้องระดมทุนจากแหล่งอื่น ที่มีต้นทุนสูงกว่าการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์
ผมคิดว่า แม้ กฟผ.ไม่ได้ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ก็ไม่ได้ทำให้ กฟผ.เสียหายแต่อย่างใด
การอ้างว่า หากกฟผ.ต้องกู้เงินจากแหล่งอื่น อาจส่งผลให้มีการปรับขึ้นค่าไฟนอกจากจะเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นแล้ว ยังทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์จะทำให้ค่าไฟถูกลง อีกทั้ง ผมยังไม่เคยได้ยินว่ารัฐบาลได้ให้สัญญาหรือให้หลักประกันว่า ค่าไฟจะลดลงหลังการแปรรูปไปแล้ว
ารกล่าวว่า กฟผ.ต้องเสียหายกว่า 4 หมื่นล้าน นั้นไม่น่าถูกต้อง ที่จริงแล้วควรกล่าวว่า กฟผ.เสียโอกาสในเงิน 4 หมื่นล้านจากการกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์น่าจะเหมาะสมกว่า เนื่องจากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์มีความหมายมากกว่าการระดมทุนธรรมดา เพราะหมายถึงการขาย กฟผ.ให้เอกชนที่หวังกำไร
การกู้เงินจากแหล่งอื่นนอกตลาดหลักทรัพย์ทำให้ กฟผ.ยังเป็นของรัฐ ถึงแม้ว่าวิธีนี้อาจทำให้อัตราค่าไฟเพิ่มขึ้นเนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้นตามคำกล่าวอ้าง แต่ผมเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจและสามารถยอมรับได้
กฟผ.เป็นรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่มีทรัพย์สินจำนวนมหาศาลและมีความมั่นคง นอกจากนี้กฟผ.ยังมีผลการดำเนินงานที่ดีและมีกำไรมาโดยตลอด สถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศพร้อมจะให้กู้เพื่อขยายกิจการอยู่แล้ว
ข้ออ้างการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์จึงไม่น่ามีน้ำหนักเพียงพอที่จะแปรรูป เพราะนอกจากจะขายสมบัติของชาติให้เป็นของเอกชนแล้วยังไม่มีหลักประกันเรื่องค่าไฟในอนาคตอีกด้วย