กระบวนการเจรจา FTA บกพร่อง : สาเหตุหลักทูตนิตย์ลาออก
เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
กรณีท่านทูตนิตย์ พิบูลสงคราม ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเจรจาเขตการค้าเสรีไทย-สหรัฐ ลาออกจากการเป็นหัวหน้าคณะเจรจา โดยมีการวิเคราะห์กันว่าสาเหตุหลักเป็นเรื่องของแรงกดดันจากหลายด้าน เช่น แรงกดดันจากฝ่ายการเมือง แรงกดดันภายในทีมเจรจา หรือแรงกดดันจากภาคประชาชน
ผมเห็นว่าแรงกดดันที่ตกอยู่กับหัวหน้าคณะเจรจาเพียงผู้เดียว เป็นเพราะการเจรจามีกระบวนการและขั้นตอนที่ไม่ถูกต้องมาตั้งแต่ต้น
ประการแรก การกีดกันการมีส่วนร่วมของประชาชน การเจรจาเน้นเฉพาะการรับฟังความเห็นของกลุ่มผู้ประกอบการที่มีการจัดตั้งเป็นองค์กร แต่ขาดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการรายย่อย ทำให้ภาคประชาชนต้องแสดงออกโดยผ่านช่องทางที่ไม่ปกติ เช่น การชุมนุมคัดค้าน การยื่นหนังสือประท้วง เป็นต้น
ประการที่สอง ไม่นำข้อตกลงเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา นายกรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะใช้กลไกรัฐสภา โดยอ้างว่าสภาฯไม่มีผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นการดูถูกสมาชิกรัฐสภาที่มีความรู้หลายสาขา แต่หากรัฐบาลนำข้อตกลงเอฟทีเอเข้าพิจารณาในสภาฯ หัวหน้าคณะเจรจาคงไม่ต้องรับแรงกดดันเพียงผู้เดียว แต่จะมีรัฐสภามาช่วยแบ่งเบาภาระแรงกดดันด้วย
ประการที่สาม เจรจาโดยไม่อยู่บนฐานของผลการศึกษาวิจัย ผมพบว่าการศึกษาผลกระทบของเอฟทีเอไทย-สหรัฐมีน้อยมาก อีกทั้งรัฐบาลยังไม่ได้นำผลการศึกษาไปใช้ในการเจรจาอย่างจริงจัง ดังตัวอย่างผลการศึกษาของทีดีอาร์ไอในปี 2546 ที่เสนอให้เร่งบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า เพื่อป้องกันการผูกขาดโดยบริษัทข้ามชาติ แต่จนถึงปัจจุบันกฎหมายดังกล่าวยังขาดประสิทธิภาพในการบังคับใช้ รวมทั้งรัฐบาลยังมีท่าทีจะไม่เปิดเสรีโทรคมนาคม ทั้ง ๆ ที่ผลวิจัยพบว่าการเปิดเสรีโทรคมนาคมมีประโยชน์ต่อผู้บริโภค วาระของรัฐบาลที่กดดันลงไปที่หัวหน้าคณะเจรจา โดยไม่อยู่บนหลักฐานทางวิชาการ ทำให้หัวหน้าคณะเจรจาไม่สามารถตอบสังคมได้อย่างมีหลักฐานว่า ท่าทีการเจรจาดังกล่าวมีเหตุผลเบื้องหลังอย่างไร
ประการที่สี่ รีบเร่งเจรจาให้ได้ข้อยุติ การที่นายกฯพยายามเร่งให้การเจรจาได้ข้อสรุปภายในปี 2549 ในขณะที่รัฐมนตรีที่รับผิดชอบกล่าวว่า ldquo;จะยังไม่มีการตกลงใด ๆ หากประเทศไทยไม่ได้ประโยชน์rdquo; ทำให้ผมเกิดคำถามว่า คณะผู้เจรจาควรจะเชื่อนโยบายของใคร และการที่นายกฯเร่งการเจรจาให้เสร็จ เสมือนหนึ่งว่ามีธงอยู่ในใจอยู่แล้ว ยิ่งทำให้หัวหน้าคณะเจรจาต้องรับแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากผู้ที่คัดค้าน
ผมคิดว่าการเจรจาเอฟทีเอให้ประเทศได้ประโยชน์ จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงกระบวนการเจรจาทั้งระบบ ผมในฐานะนายกสมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทยจึงได้จัดเสวนาทางวิชาการ เรื่อง ldquo;การปฏิรูปกระบวนการเจรจาการค้าเสรี : กรณีเอฟทีเอไทย-สหรัฐrdquo; ในวันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา 13.30 ndash; 17.00 ที่สถาบันบัณฑิตบริหารธรุกิจหรือศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อระดมความคิดเห็นจากฝ่ายต่าง ๆ เกี่ยวกับการปรับปรุงกระบวนการเจรจาการค้าเสรี จึงใคร่ขอเรียนเชิญมิตรสหายทุกท่านเข้าร่วมการเสวนาโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ครับ