ไข้หวัดนกบทเรียนความไม่รอบคอบ
เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
ldquo;hellip;ผมได้มอบนโยบาย คือ ให้กำลังใจทีมงานเรื่องของการเฝ้าระวังไข้หวัดนก ซึ่งขณะนี้ยังไม่กลับมา ที่มีไก่ตาย นกตาย นั้น เขาเรียกว่าเป็นห่าไก่ หรือ Newcastle แต่ไม่ใช่ไข้หวัดนก ไข้หวัดนกตอนนี้เราสามารถว่างเว้นหวัดนกไปได้ 290 กว่าวันแล้วhellip;เพราะเนื่องจากว่าทีมงานรู้เรื่องอยู่แล้ว เก่งอยู่แล้ว ได้ทำมาได้ถูกต้องแล้วhellip;จนเป็นที่ยอมรับของทั่วโลกว่าประเทศไทยได้มีการควบคุมและจัดการไข้หวัดนกได้ดีมากในภูมิภาคนี้ เป็นตัวอย่างกรณีศึกษาจากหลายประเทศ ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องที่ให้กำลังใจ ขอบคุณเจ้าหน้าที่hellip;rdquo;(รายการนายกทักษิณคุยกับประชาชน วันที่ 8 กรกฎาคม 2549)
คำกล่าวของรักษาการนายกฯในรายการวิทยุ ได้ทำให้ผมคิดถึงเหตุการณ์การระบาดของไข้หวัดนกครั้งแรกในประเทศไทย รัฐบาลได้อ้างว่าไก่ที่ตายเป็นจำนวนมากเป็นเพราะโรคห่าไก่ จนทำให้ประชาชนเข้าใจผิดและหลายคนต้องเสียชีวิตลงด้วยไข้หวัดนก เช่นเดียวกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะหลังจากที่รักษาการนายกฯ กล่าวในรายการดังกล่าวไม่นาน กลับปรากฏว่ามีประชาชนที่ติดโรคไข้หวัดนกจนเสียชีวิตลง
สถานการณ์การระบาดของไข้หวัดนกในปัจจุบันอาจทำให้หลายคนรู้สึกไม่เชื่อมั่นในข้อมูลที่รัฐบาลประชาสัมพันธ์ ผมคิดว่าบทเรียนครั้งนี้มาจากความไม่รอบคอบของเจ้าหน้าที่และรัฐบาล นั่นเอง
การรายงานสถานการณ์ที่ผิดพลาดนี้อาจจะมาจากความไม่รอบคอบของเจ้าหน้าที่หน่วยเฝ้าระวังไข้หวัดนก ที่คิดว่าไก่ที่ตายในพื้นที่เป็นเพียงโรคระบาดที่ไม่ร้ายแรง ซึ่งแทนที่จะนำไก่ที่ตายไปตรวจเชื้อในห้องปฏิบัติการ แต่เจ้าหน้าที่กลับรีบสรุปเองว่าเป็นเพียงโรคระบาดธรรมดา ดังนั้นเมื่อรายงานที่ผิดนี้ออกไปจึงทำให้ประชาชนเข้าใจผิดและไม่ระวังป้องกันตัวเองอย่างดี
ความไม่รอบคอบประการต่อมา คือ ตัวรัฐบาลเองที่ประมาทและชะล่าใจมากเกินไป ไม่มีการตรวจสอบรายงานก่อนที่จะประชาสัมพันธ์ข้อมูลออกไป ประกอบกับรัฐบาลมีความมั่นใจแบบผิด ๆ ว่าการที่สามารถควบคุมโรคได้ถึง 290 วัน แล้วคิดว่าโรคนี้จะไม่กลับมาอีก ความภูมิใจกับความสำเร็จพร้อมทั้งความอยากที่จะประชาสัมพันธ์ผลงานของตนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลอย่างดี จึงเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
ประการสุดท้ายที่ผมสังเกตว่า ในการระบาดของไข้หวัดนกแต่ละครั้ง รัฐบาลมักไม่ให้ข้อมูลกับประชาชนได้รับทราบ แต่ข่าวที่ปรากฏออกมาก่อนกลับเป็นข้อมูลที่ไม่ได้มาจากภาครัฐ พฤติกรรมที่มักปกปิดของรัฐบาลอาจทำให้สังคมอดสงสัยไม่ได้ว่ารัฐบาลกำลังปกป้องผู้ประกอบการหรือบริษัทบางแห่งมากกว่าที่จะปกป้องสวัสดิภาพและความปลอดภัยของประชาชนหรือไม่
ผมเสนอว่ารัฐบาลควรประชาสัมพันธ์พร้อมทั้งเน้นย้ำประชาให้ประชาชนมีความรู้และระมัดระวังการติดต่อของเชื้อย่างต่อเนื่อง และควรให้ความจริงกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมาและรวดเร็ว