ไทยขยายโอกาสการอุดมศึกษาสู่กลุ่มผู้ด้อยโอกาส

    


ที่มาของภาพ http://unwrittendreams.files.wordpress.com/2009/05/books-and-pens.jpg

 
     ปีที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาของประเทศออสเตรเลียได้ออกมาประกาศชุดนโยบายการศึกษาที่สำคัญหลายประการ โดยในที่นี้ได้มีการตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจนที่จะเพิ่มสัดส่วนของนักศึกษาออสเตรเลียระดับปริญญาตรีจากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 40 ภายในปี ค.ศ. 2025 ซึ่งในจำนวนนี้ได้ตั้งเป้าหมายให้มีเด็กนักเรียนระดับมัธยมศึกษาที่มีสภาพความเป็นอยู่ในการครองชีพต่ำ สามารถสมัครเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรีร้อยละ 20 ภายในอีก 10 ปีข้างหน้า เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศออสเตรเลียมีคนวัยหนุ่มสาวที่เป็นกลุ่มคนด้อยโอกาสในสังคมที่เข้าร่วมการสอบคัดเลือกเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาเพียงร้อยละ 15 เท่านั้น

     การสนับสนุนให้มีการเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษานั้น เป็นแนวทางที่หลายประเทศต่างพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น ผมเห็นด้วยกับการสนับสนุนให้กลุ่มคนด้อยโอกาสได้มีโอกาส เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา เพื่อให้คนกลุ่มนี้ สามารถสร้างรายได้สู่ครอบครัวของตน และมีคุณภาพชีวิตทีดีขึ้นได้ อีกทั้งจะทำให้คนกลุ่มนี้ ไม่เป็นกลุ่มที่เป็นปัญหาสังคม แต่จะมีส่วนช่วยพัฒนาสังคมและชุมชนของตนเอง

     อย่างไรก็ตาม มีข้อพึงระวังในการขยายโอกาสด้านการอุดมศึกษา เพราะหากเกินพอดี หรือรวดเร็วเกินไป จะส่งผลด้านคุณภาพได้ อีกทั้งสภาพการล้นตลาดของบัณฑิตบางสาขา  โดยเฉพาะในบัณฑิตในสาขาด้านสังคมศาสตร์และมนุษย์ศาสตร์ ดังนั้นต้องมีการวางแผนและการจัดการที่ดีเพียงพอในการแก้ปัญหาและสนับสนุนการเพิ่มโอกาสการอุดมศึกษาสู่กลุ่มคนด้อยโอกาสในสังคม
ดังนั้น รัฐบาลจะต้องมีการดำเนินการอย่างมีกลยุทธ์กล่าวคือ การสนับสนุนกลุ่มคนด้อยโอกาสหรือมีฐานะทางเศรษฐกิจที่ไม่ดีนัก ให้ได้รับโอกาสการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา จะเป็นไปได้ทั้งการให้เด็กเก่งได้เข้าเรียนในสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่าง ๆ โดยการให้ทุน โดยมหาวิทยาลัย หรือให้แต่ละสาขา/คณะ ร่วมมือกับองค์กรและหน่วยงานในภาครัฐ บริษัท สถานประกอบการในภาคเอกชน ให้ทุนและรับบัณฑิตกลุ่มนี้เข้าทำงานเมื่อจบการศึกษา นอกจากนี้ ควรสนับสนุนมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรที่เน้นภาคปฏิบัติมากขึ้น เช่น การสนับสนุนมหาวิทยาลัยทางการช่าง เทคนิค และเทคโนโลยีต่าง ๆ ในการสร้างและพัฒนากำลังคนกลุ่มนี้ ให้มีทักษะการทำงานภาคปฏิบัติอย่างเข้มข้น ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน หรือการให้ศึกษาต่อในสายสังคมศาสตร์  แต่ต้องดำเนินการอย่างระวังและรอบคอบ เพื่อมิให้เป็นการซ้ำเติมปัญหาการผลิตบัณฑิตในสายสังคมศาสตร์ล้นตลาดของไทย หรือการที่บัณฑิตจบมาแล้ว ไม่ได้ประกอบอาชีพตามสาขาที่จบ ดังนั้นรัฐ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมหาวิทยาลัย ควรกำหนดจำนวนนักศึกษาแต่ละสาขาให้สอดคล้องกับตลาดแรงงาน เพิ่มการสนับสนุนงบประมาณในสาขาวิชาที่ขาดแคลน การสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยอาจเปิดหลักสูตรใหม่ ๆ ที่อยู่ภายใต้สาขาสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ แต่เป็นหลักสูตรที่ตลาดแรงงานต้องการ เช่นภาษาต่างประเทศ ผู้ประกอบการ นักบริหารเชิงสร้างสรรค์ นักวิจัยด้านสังคมศาสตร์ เป็นต้น

admin
เมื่อ: 
26/5/2010