ได้ดีเพราะการอ่าน
ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
นักวิชาการอาวุโส ศูนย์ศึกษาธุรกิจและรัฐบาล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
kriengsak@kriengsak.com, http:// www.kriengsak.com
หากจะพูดถึงชีวิตและผลงานของคนดังที่มีความสามารถอย่างแท้จริงในอดีตจนถึงปัจจุบัน เราจะพบว่าความดังและชื่อเสียงของคนเหล่านั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญ หรือได้มาในชั่วระยะเวลาเพียงข้ามคืน แต่แลกมาด้วยความเพียรพยายาม ความอุตสาหะ และความทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจในการสร้างผลงานต่าง ๆ ให้ประจักษ์แก่สายตาของชาวโลก บุคคลเหล่านั้นหลายคนสามารถประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย เขาเหล่านั้นน่าจะเป็นคนที่แสวงหาความรู้ สั่งสมข้อมูลมาตั้งแต่เยาว์วัย และสิ่งนั้นกลายเป็นประโยชน์ในการค้นคว้า พัฒนาการทำงาน และต่อยอดความรู้เหล่านั้นไปสู่การสร้างสรรค์ผลงาน จนได้รับการยอมรับในวงกว้าง สิ่งหนึ่งที่คนดังตั้งแต่ในอดีต จนถึงปัจจุบัน ใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ คือ การอ่าน นั่นเอง
บุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมายให้ความสำคัญกับการอ่านอย่างเป็นชีวิตจิตใจ อาทิ
ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน นักเล่านิทานระดับโลก เจ้าของนิทานอมตะหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น นิทานเรื่อง ลูกเป็ดขี้เหร่ เงือกน้อย เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ พ่อของแอนเดอร์สันมีส่วนอย่างมากในการ อบรมลูกชายด้วยการอ่านหนังสือของนักเขียนชาวเดนมาร์กและชาวต่างประเทศให้ลูกฟังเสมอ ทำให้แอนเดอร์สันมีนิสัยรักการอ่าน เป็นคนเฉลียวฉลาดมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าพ่อจะเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเด็ก และทางบ้านประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ แต่เขายังขวนขวายหาหนังสือมาอ่านอยู่เสมอ
หลี่ไป๋ ยอดกวีเอกชาวจีน ผู้ล่วงลับไปนับร้อยปีแต่ผลงานยังคงโดดเด่นอยู่จนถึงวันนี้ ในวัยเด็กของท่านนั้นบิดามักอุ้มท่านไว้บนตักแล้วสอนภาษาจีน เมื่ออายุได้ 10 ปี ท่านสามารถอ่านหนังสือได้อย่างแตกฉาน และสามารถท่องจำบทกวีชื่อดังได้ตั้งแต่อายุยังน้อย
วิคเตอร์ ฮูโก นักเขียนชื่อดัง อัจฉริยะบุคคลผู้ใช้ปากกาเป็นอาวุธเพื่อสันติภาพ ในวัยเด็ก เขาจะใช้เวลายามว่างจากการเล่นและปฏิบัติภารกิจประจำวันไปกับการอ่านหนังสือ เมื่อฮูโกอายุ 9 ปีเขาสามารถท่องปากเปล่าบทประพันธ์ของโฮเรซ กวีเอกชาวโรมันได้หลายบท
อัปตัน ซินแคลร์ ผู้เขียน ldquo;The Junglerdquo; เขาไม่มีโอกาสเข้าโรงเรียนจนอายุได้ 10 ปี แต่นั่นไม่ได้เป็นปัญหาให้เขาเรียนช้ากว่าเพื่อน เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาหัดอ่านหนังสือด้วยตนเอง เขาอ่านอย่างหลงใหล เมื่อโตขึ้นเขาได้หาเลี้ยงตัวเองด้วยการแต่งหนังสือ ตลอดชีวิตของเขา เขาได้เขียนหนังสือเล่มใหญ่ 48 เล่ม เล่มเล็ก ๆ อีกกว่า 500 เล่ม
แอลิเกียรี่ ดังเต้ กวีผู้มีชื่อเสียงที่สุดในอิตาลี เป็นคนขยันขันแข็งในการเรียน มีความรอบรู้ในวิทยาการทุกแขนง เขาอ่านและศึกษามาก งานเขียนของเขาจึงมีความลึกซึ้งและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการวรรณกรรมของอิตาลี
ทิม เบอร์เนอร์ส ลี เมื่อปลายศตวรรษที่ 20 นิตยสาร Focus ซึ่งเป็นนิตยสารเชิงวิทยาศาสตร์รายเดือน ได้จัดอันดับ นักประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 50 อันดับแรกของโลกขึ้น ทั้ง 50 คนนี้ เรียกได้ว่าเป็น ldquo;50 สุดยอดนักประดิษฐ์ ผู้ตกแต่งโฉมหน้าของโลกปัจจุบันrdquo; หนึ่งในนั้นคือ ทิม เบอร์เนอร์ส ลี
ทิมเกิดเมื่อปี ค.ศ.1958 ที่เมืองเพลสซีย์ ประเทศอังกฤษ เขาได้คิดค้นวิธีการง่าย ๆ ที่จะช่วยให้นักฟิสิกส์ทั่วโลกสามารถแลกเปลี่ยนรายงานวิจัยซึ่งกันและกันได้ผ่านทางสายโทรศัพท์ โดยได้ แรงบันดาลใจในเรื่องนี้มาจากหนังสือสมัยวิคตอเรียชื่อ Inquire Within : Anything You Want to Know ว่าด้วยแหล่งข้อมูลที่ทุกคนสามารถเข้ามาสอบถามทุกอย่างที่ต้องการทราบได้
เครือข่ายของเบอร์เนอร์ส ลี สร้างขึ้นเมื่อปี 1989 กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนทั่วโลกรู้จักกันดีในชื่อ World Wide Web (WWW)
ความยิ่งใหญ่ในสิ่งที่เขาประดิษฐ์ขึ้น ได้ปฏิวัติเทคโนโลยีการสื่อสารในศตวรรษที่ 21 นี้
สิ่งหนึ่งที่เราสามารถเรียนรู้และเลียนแบบจากตัวอย่างชีวิตของบุคคลสำคัญต่าง ๆ เหล่านี้ได้ นั่นคือ ความสำเร็จอันเกิดจากแรงบันดาลใจที่ได้จากการอ่าน
การอ่านไม่เพียงแต่เป็นการช่วยเพิ่มพูนความรู้ แต่ข้อความที่เรียงร้อยในหนังสือนั้นสามารถส่งผ่านพลังอันยิ่งใหญ่ ให้ผู้อ่านซึมซับ เรียนรู้และเปลี่ยนเป็นแรงบันดาลใจ ขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติตามแนวทางหรือเป้าหมายตามที่ข้อความนั้นบันทึกไว้
การอ่านเป็นการให้อาหารแก่สมอง ถ้าให้อาหารดี (อ่านสิ่งที่ดี) ให้อย่างสม่ำเสมอ สมองย่อมรับและย่อยสิ่งที่ดี ความคิดย่อมเจริญงอกงาม ถ้าให้อาหารไม่ดี (อ่านสิ่งที่ไม่ดี ไม่เหมาะสม) สมองก็อาจได้รับอาหารพิษ ความคิดย่อมพิกลพิการ ยิ่งถ้าไม่ได้รับอาหาร (ไม่ชอบอ่าน) รับแต่ขนมจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (โทรทัศน์ เกมส์ อินเตอร์เน็ต) สมองย่อมจะขาดสารอาหาร เพราะขาดความรู้จากหนังสือที่จะนำมาคิดใคร่ครวญ อย่างเพียงพอ และจะทำให้ตายทางปัญญาในที่สุด
การอ่านมีความสำคัญมากในการกำหนดว่า อนาคตเราจะเป็นเช่นไร..
ผมได้พยายามย้ำเด็กรุ่นหลัง ๆ ให้เห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของการอ่านหนังสือมาโดยตลอด เพราะเห็นว่าเด็ก ๆ และคนทั่วไปในสังคมไทยของเราอ่านหนังสือกันน้อยเหลือเกิน เมื่ออ่านน้อยเราจึงเป็นคนที่มีโลกทัศน์แคบ มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ อย่างจำกัด ขาดความสามารถในการแก้ปัญหาและพัฒนาตนเอง จนกลายเป็นคนล้าหลังไปในที่สุด
การอ่านเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเราทุกคน เพราะเป็นการเพิ่มทุนความรู้ที่คุ้มค่ายิ่งสำหรับชีวิตในอนาคต เราต้องสร้างทัศนคติแง่บวกให้กับการอ่าน เช่นตระหนักว่า ldquo;การอ่าน คือ เครื่องมือของผู้ที่ปรารถนา ความสำเร็จrdquo; ldquo;การอ่านไม่ใช่เป็นการเสียเวลา แต่เป็นการลงทุนทางปัญญาrdquo; ldquo;การอ่านทำให้เราเป็นคนฉลาด มีทั้งความรู้ และรู้จักคิดใคร่ครวญrdquo;
นอกจากนี้ ที่สำคัญกว่านั้น เราจำเป็นต้องอ่านอย่างมีประสิทธิภาพ โดยhellip;
อ่านหนังสือที่ช่วยให้ชีวิตประสบความสำเร็จ
ในชีวิตเรามีหนังสือ 2 ประเภทที่จะช่วยให้ชีวิตประสบความสำเร็จ ประเภทที่หนึ่ง หนังสือที่ตนเองชอบ เลือกหนังสือที่ทำให้มีความสุขเมื่อได้อ่าน อาจจะเป็นหนังสือประเภทใดก็ได้ เช่น บทกวี เรื่องสั้น นวนิยาย และประเภทที่สอง หนังสือที่ตนเองต้องอ่าน เลือกอ่านหนังสือที่สนับสนุนสู่ความสำเร็จของชีวิต และอ่านหนังสือให้ครบถ้วนทุกด้าน เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมทักษะในด้านต่าง ๆ ที่เราอยากจะพัฒนา และเพื่อจรรโลงจิตใจและ คุณธรรมให้สูงขึ้น
บริหารเวลาในการอ่าน
เราควรกำหนดเวลาอย่างเฉพาะเจาะจงในการอ่านหนังสือ เช่น ใน 1 วันต้องตั้งเวลาเฉพาะเจาะจงสำหรับการอ่าน เช่นวันละ 15 นาที 1 อาทิตย์จะอ่านได้กี่หน้า 1 เดือนได้เท่าไร ต้องพยายามคำนวณจากหนังสือที่เราต้องอ่าน ไม่ปล่อยเวลาให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ๆ ลดการใช้เวลาในด้านอื่นที่ไม่จำเป็น
พัฒนาทักษะการอ่านที่มีประสิทธิภาพ
โดยศึกษาเทคนิคการอ่านและฝึกทำตามเป็นประจำ อย่างน้อยต้องมีวัตถุประสงค์ในการอ่าน เพื่อทำให้การอ่านมีความหมาย โดยจับประเด็นหลักให้ได้ กำหนด วัตถุประสงค์ วิเคราะห์ ทำความเข้าใจ และเก็บบันทึกความเข้าใจ อาจด้วยการจดบันทึกคำสำคัญไว้ตลอดการอ่าน ที่สำคัญ หลีกเลี่ยงเวลาที่ไม่ควรอ่านหนังสือ เช่น หงุดหงิด ง่วงนอน ไม่มีสมาธิ เพราะอาจทำให้การอ่านไม่ประสบความสำเร็จและทำให้ไม่ชอบอ่านในที่สุด
หากเรายังต้องทำงานในองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยความรู้ เราจำเป็นต้องให้อาหารสมองที่ดี มีประโยชน์ และให้อาหารใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เราสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และได้รับแรงบันดาลใจในการทำงานให้ก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง