แก้ปัญหาเด็กแว้นต้อง "แก้ที่ราก" และจัด "กิจกรรมโดนใจวัยโจ๋"

 
แนวคิดแก้ปัญหาเด็กแว้น (วัยรุ่นที่ชอบขับรถมอเตอร์ไซด์แข่งบนถนน) ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดย "จัดตั้งสถานดัดสันดานที่เข้มงวดกว่าสถานพินิจ" ซึ่งนำรูปแบบมาจากโรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองของทหาร เพื่อส่งเด็กแว้นไปฝึกให้หนัก เป็นการดัดนิสัยชอบแหกกฎหมาย ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสรุปสถานการณ์ และประสานกับทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดรูปแบบฝึกฝนทางจิตวิทยา
 
การแก้ปัญหาเด็กแว้นโดย "จัดตั้งสถานดัดสันดานเด็กแว้น" ควรพิจารณาอย่างรอบคอบระมัดระวังและศึกษาอย่างจริงจังก่อนดำเนินการ เพราะหากส่งเด็กเข้าไปยังโรงเรียนดัดสันดานที่มีความเข้มงวดมาก จะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะช่วยปรับพฤติกรรมเด็กแว้นได้จริง เพราะลักษณะเด็กแว้น เป็นเด็กที่ชอบท้าทายกฎหมายอยู่แล้ว หากเด็กต้องเข้าไปอยู่ภายใต้ระเบียบที่เข้มงวด อาจยิ่งเพิ่มความเครียดและกดดันให้เด็กต้องการออกจากกฎเกณฑ์มากขึ้น และเมื่อออกจากสถานกักกันแล้วอาจไม่ได้เปลี่ยนนิสัยเดิมได้
 
ผมเสนอการแก้ปัญหาเด็กแว้น ควรดำเนินการบนพื้นฐานความเข้าใจและดำเนินการแก้ไขในระดับจิตใจและทัศนคติของวัยรุ่น โดยมีระบบการศึกษาเกี่ยวกับปัญหานี้อย่างจริงจัง และร่วมพัฒนาแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเป็นระบบเฉพาะเจาะจง ด้วยการร่วมมือกับนักจิตวิทยาที่เชี่ยวชาญ เพื่อมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับรูปแบบการปรับพฤติกรรมเด็กที่มีพฤติกรรมรุนแรงและชอบก่อปัญหาสังคมอันจะสามารถปรับพฤติกรรมเด็กอย่างได้ผล ทั้งนี้ อาจขยายผลไปยังเด็กที่ก่อปัญหาสังคมอื่น ๆ เช่น ขโมย ติดยาเสพติด ทะเลาะวิวาท ฯลฯ
 
นอกจากนี้ สิ่งที่ควรดำเนินการไปพร้อมกันคือ พัฒนาและจัด "กิจกรรมวัยโจ๋" ที่หลากหลาย เป็นกิจกรรมที่มีความท้าทาย มีความตื่นเต้น น่าสนใจ สนุกสนาน เป็นกิจกรรมใหม่ ๆ เป็นแนวโน้มของเด็กวัยรุ่นยุคใหม่ เพื่อดึงเด็กออกจากกิจกรรมที่ก่อปัญหาสังคม โดยรัฐควรดำเนินการอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เช่น การแข่งรถในสนามโดยมีกิจกรรมเสริมเช่น การแต่งรถ ฯลฯ การโดดหน้าผาแบบบันจี้จั้ม ดนตรีสมัยใหม่ที่เร้าใจวัยรุ่น การแข่งขันเล่นเกมคอมพิวเตอร์ที่ท้าทายใหม่ ๆ การแข่งเต้น การดำน้ำ การเป็นนักจัดรายการโทรทัศน์หรือวิทยุสำหรับกลุ่มวัยรุ่น การยิงปืนและธนู การเดินป่าและล่องแก่งแบบท้าท้าย แต่ต้องมีระบบระวังความปลอดภัย ร่วมมือจัดกิจกรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักพิมพ์ รีสอร์ท สถานีโทรทัศน์ สถานที่ราชการ การรถไฟ การไฟฟ้า ฯลฯ เพื่อสร้างความหลากหลาย ความต่อเนื่อง และประสิทธิภาพในการจัดกิจกรรม นอกจากนั้น ต้องมีศูนย์รับผิดชอบการจัดกิจกรรมวัยโจ๋ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่จัดโดยหน่วยงานต่าง ๆ มีระบบการชักชวนวัยรุ่นเข้าร่วมกิจกรรม สร้างความเข้าใจแก่ครูและผู้ปกครองในการสนับสนุนเด็กเข้าร่วมกิจกรรม มีระบบประเมินผลและพัฒนากิจกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการของวัยรุ่น ฯลฯ
admin
Catagories: 
เผยแพร่: 
หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์
เมื่อ: 
2008-09-12