ไทยจะกำหนดวิสัยทัศน์ด้านพลังงานอย่างไร

ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว ลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจในทุกด้าน เพื่อให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดได้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ภาครัฐพยายามให้การช่วยเหลือ และลดการพึ่งพาน้ำมันและหันมาให้ความสำคัญพลังงานทดแทนมากขึ้น แต่การพัฒนาด้านพลังงานทดแทนยังเป็นไปอย่างล่าช้า
ในต่างประเทศมีการพัฒนาด้านพลังงานไปไกลมาก เพราะไม่เพียงการพัฒนาพลังงานทดแทนเท่านั้น แต่หลายประเทศในยุโรปกำลังพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไปในทิศทางที่เรียกว่า ldquo;เศรษฐกิจไร้น้ำมันrdquo; (Oil ndash; Free Economy) ดังตัวอย่างรัฐบาลสวีเดนที่ประกาศวิสัยทัศน์ว่าจะพัฒนาประเทศให้เป็น ldquo;เศรษฐกิจไร้น้ำมันrdquo; ภายในปี ค.ศ.2020 นับเป็นประเทศแรกของโลกที่ประกาศวิสัยทัศน์ที่ท้าทายเช่นนี้ ldquo;เศรษฐกิจไร้น้ำมันrdquo; ที่กล่าวถึงนี้ ไม่ได้หมายถึง การไม่ใช้น้ำมันเลย แต่เป็นการพึ่งพาน้ำมันให้น้อยที่สุด โดยรัฐบาลสวีเดนตั้งเป้าว่าในปี 2020 จะไม่มีการใช้น้ำมันสำหรับทำความร้อนในบ้านเรือนและอาคารพาณิชย์ ในขณะที่ภาคการขนส่ง จะลดการใช้น้ำมันลงให้ได้ร้อยละ 40 ndash; 50 และภาคอุตสาหกรรมจะลดการใช้น้ำมันลงให้ได้ร้อยละ 25 ndash; 40 เมื่อเปรียบเทียบวิสัยทัศน์ดังกล่าวกับนโยบายพลังงานของประเทศไทยแล้ว นับว่านโยบายของไทยยังห่างไกลกับประเทศสวีเดนมาก เห็นได้จาก
ประเทศไทยยังขาดวิสัยทัศน์ด้านพลังงานที่ชัดเจน รัฐบาลในอดีตเคยประกาศว่า ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการค้าน้ำมันของภูมิภาค ศูนย์กลางพลังงานของอาเซียน และศูนย์กลางพลังงานทดแทนแห่งเอเชีย แต่เป็นเพียงการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตื่นเต้น แต่ไม่มีความชัดเจนว่ารัฐบาลต้องการเห็นเป้าหมายอะไรที่วัดได้ ไม่มีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน และไม่มีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้สำเร็จตามเป้าหมาย รวมทั้งยังมีการประกาศหลายเป้าหมายจนทำให้เกิดความสับสนว่า ตกลงแล้วรัฐบาลต้องการจะนำประเทศไปในทิศทางใด
วิสัยทัศน์ด้านพลังงานของไทยไม่สมเหตุสมผล การจะพัฒนาประเทศต้องมีวิสัยทัศน์แห่งชาติ ที่ชัดเจนและเป็นจริงได้ แต่วิสัยทัศน์ด้านพลังงานของไทย เช่นการเป็นศูนย์กลางพลังงานของอาเซียนนั้น ไม่สมเหตุสมผลและเป็นไปได้ยาก เนื่องจากมีคู่แข่งที่แข็งแกร่งมาก (สิงคโปร์) และประเทศไทยต้องพึ่งพาต่างประเทศค่อนข้างมากในการลงทุนท่อส่งน้ำมันและก๊าซในไทย(เช่น รัสเซีย ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ เป็นต้น) ซึ่งอาศัยเงินทุนมากและเป็นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมได้ยาก
การกำหนดวิสัยทัศน์ให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการค้าพลังงาน มิได้เป็นการตอบโจทย์ที่แท้จริงของประเทศ นั่นคือการลดพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ เพราะการเป็นศูนย์กลางการค้าพลังงานไม่ทำให้ประเทศสามารถลดการพึ่งพาการนำเข้าพลังงานได้ และไม่ทำให้นำเข้าพลังงานได้ในราคาต่ำลง เพราะราคาน้ำมันเป็นไปตามราคาตลาดโลก
admin
เผยแพร่: 
หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์
เมื่อ: 
2008-06-19