วิสัยทัศน์..เพิ่มพลังการนำ
ldquo;ภาวะผู้นำมิใช่บุคลิกภาพที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ เพราะนั่นเป็นเพียงการมีวาทศิลป์อันเยี่ยมยอด อีกทั้งมิใช่ ldquo;ความสามารถในการสร้างมิตรและมีอิทธิพลต่อผู้อื่นrdquo; เพราะนั่นเป็นเพียงความสามารถในการยกยอคน แท้จริงแล้ว ภาวะผู้นำคือความสามารถที่จะยกระดับวิสัยทัศน์ให้สูงขึ้น การยกระดับความสามารถ ให้สูงกว่ามาตรฐาน และการสร้างบุคลิกภาพให้เหนือขอบเขตความจำกัดตามธรรมชาติ
ปีเตอร์ เอฟ ดรักเกอร์ ปรมาจารย์ด้านการบริหารได้กล่าวข้อความข้างต้นไว้ สะท้อนให้เห็นสิ่งสำคัญหากเราต้องการพัฒนาภาวะผู้นำ เพื่อ lsquo;นำrsquo; ผู้อื่นอย่างประสบความสำเร็จ นั่นคือเราจำเป็นต้อง lsquo;มีrsquo; วิสัยทัศน์ ต้องสามารถ lsquo;ส่งผ่านrsquo; วิสัยทัศน์สู่ทีมงาน และที่สำคัญต้องสามารถ rsquo;ยกระดับrsquo; ความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ให้เกิดขึ้น จนทุกคนร่วมกันผลักดันวิสัยทัศน์นั้นบรรลุถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้
วิสัยทัศน์ ไม่ใช่ความฝันที่เลื่อนลอย แต่เป็นจินตภาพในอนาคตที่เด่นชัดอยู่ในความคิด ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจในสภาพปัจจุบันและการเปลี่ยนแปลงในอนาคต จินตภาพนี้มีอิทธิพลในการสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความมุ่งมาดปรารถนากระทำให้เป็นจริง อันนำไปสู่การกำหนดเป้าหมาย การวางแผน การลงมือดำเนินการ โดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และไม่ล้มเลิกง่าย ๆ จนกว่าจะไปถึงซึ่งความสำเร็จ
ผู้จัดการและนักบริหารสามารถจูงใจให้คนทำงานบรรลุเป้าหมายที่มองเห็น แต่ผู้นำจะสร้างแรงบันดาลใจกระตุ้นให้ทุกคนเดินไปสู่เป้าหมายไกลลิบ ๆ ที่มองไม่เห็น ทว่า..น่าพึงปรารถนา
ดังนั้น ในการพัฒนาภาวะผู้นำ นอกจากเราจำเป็นต้องรู้จักวิสัยทัศน์แล้ว ที่สำคัญกว่านั้น ต้องพัฒนาวิสัยทัศน์ให้เป็นหนึ่งในลักษณะชีวิตของเราด้วย
ฝันให้ไกล คิดให้ใหญ่
เราต้องเป็นคนที่ไม่มองเพียงปัญหาเฉพาะหน้าหรือมีชีวิตอยู่เพียงเพื่อวันนี้ แต่ต้องมีสายตามองไกลออกไปในอนาคต มองระยะยาว คนมีวิสัยทัศน์จึงไม่ทำอะไรเพื่อวันนี้ แต่จะทำเพื่อพรุ่งนี้และวันข้างหน้าด้วย
การทดสอบขั้นพื้นฐานเพื่อดูว่าเราเป็นผู้มีวิสัยทัศน์หรือไม่ ให้เราลองหลับตาและถามตัวเองว่า ldquo;ต้องการเห็นอนาคตเป็นอย่างไร?rdquo; ldquo;เราต้องการไปไกลถึงระดับใดในความสามารถและศักยภาพของเรา ทั้งในชีวิตส่วนตัวและในอาชีพการงาน?rdquo; ldquo;เราพร้อมจะท้าทายตัวเองและทีมงานให้กล้าทำสิ่งใหม่ ๆ เพื่อไปถึงจุดนั้นหรือไม่rdquo; ldquo;เรามั่นใจว่าจะบุกบั่นไม่ย่อท้อ แม้มีอุปสรรคจนกว่าสิ่งที่เราปรารถนาจะสำเร็จหรือไม่rdquo;
กล้าขายฝัน ส่งผ่านสู่ทีมงาน
ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ นอกจากจะกล้าคิด กล้าฝันแล้ว ยังต้องกล้าขายฝัน กล้านำเสนอความฝันและเชื้อเชิญเพื่อนร่วมงานให้เข้าร่วมค้นหา ร่วมสำรวจความเป็นไปได้ และร่วมผจญภัยในเส้นทางที่ยังไม่เคยเดิน โดยมีภาพอนาคตที่พึงประสงค์ ภาพเดียวกัน
ผู้นำจะต้องเป็นผู้พัฒนาการรับรู้วิสัยทัศน์ให้กับทีมงาน ต้องพัฒนาทักษะในการสร้างสัมพันธ์กับทีมงาน และการสื่อสารด้วยความเชื่อมั่นว่า ความฝันนั้นน่าปรารถนา เป็นความฝันที่สามารถไปถึงได้หากร่วมแรงร่วมใจกัน ท้าทายให้ทีมงานไม่หยุดอยู่กับที่ แต่พร้อมจะเปิดตัวเองสู่ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ
เชื่อมั่น ยืนหยัด เพื่อไปให้ถึง
ผู้นำต้องมีความเชื่อมั่นและยืนหยัดในวิสัยทัศน์ของตน เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่อาจมีคนไม่เข้าใจ ไม่เห็นด้วย สงสัยในวิสัยทัศน์ที่เรากำลังจะไป ยิ่งเมื่อเกิดปัญหาอุปสรรคระหว่างทาง เราต้องไม่หวั่นไหว ต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ มองข้ามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ภายหน้า ไปยังเป้าหมายระยะไกลที่ต้องการไปให้ถึง ขณะเดียวกัน ตอกย้ำทีมงานให้มีความคิดแง่บวกและให้เชื่อมั่นว่า ถ้าทุกคนในทีมเชื่อในสิ่งเดียวกัน พลังในการทำให้เกิดขึ้นจริงย่อมเป็นไปได้ อุปสรรคที่ขวางกั้นจะเป็นเหมือนขนมหวานที่ร่วมมือกันจัดการได้ไม่ยาก
ผู้นำที่หยิบยื่นวิสัยทัศน์ให้เพื่อนร่วมงาน จะสร้างแรงบันดาลใจให้ทีมงานทุ่มเททำงานด้วยแรงปรารถนาจากภายใน ซึ่งหลายครั้งมีพลังมากกว่าการขับเคลื่อนคนให้ทำงาน ด้วยการสัญญาว่าจะให้เงิน ตำแหน่ง และรางวัลอื่น ๆ เสียอีก เพราะเมื่อผู้นำส่งผ่านวิสัยทัศน์ด้วยวิธีที่แตะต้องใจทีมงาน ก่อให้เกิดความเข้าใจและยอมรับในเป้าหมายเดียวกัน ย่อมนำไปสู่การผูกพันอุทิศตัวที่เหนียวแน่น และการทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพจากความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
กล่าวกันว่า สิ่งที่เปลี่ยนแปลงผู้จัดการหรือนักบริหารธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นผู้นำได้นั้น คือ วิสัยทัศน์ Tags:
เผยแพร่:
งานวันนี้
เมื่อ:
2007-07-24