ในบทความครั้งที่แล้ว ผมได้เขียนถึงผลการสำรวจในภาพรวมของประสิทธิผลภาคเอกชน (Private Sector Effectiveness: PVE) ที่เป็นตัวชี้วัดด้านหนึ่งภายใต้ดัชนีประสิทธิผลประเทศไทย หรือ Thailand Effectiveness Index (TE Index)
ภาคเอกชนในที่นี้ หมายถึง ธุรกิจเอกชนไทยหรือต่างชาติที่ดำเนินการในประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร เช่น ร้านค้า สถานประกอบการ วิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (SMEs) ห้างหุ้นส่วน บริษัทจำกัด บริษัทมหาชน
จากการอภิปรายผลดัชนีประสิทธิผลภาคเอกชน ประเด็นสำคัญ คือ ภาคเอกชนไม่ได้คำนึงถึงการดำเนินธุรกิจในระยะยาวเท่าที่ควร กล่าวคือ ยังลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาไม่มากพอ และการคิดค้นหรือประดิษฐ์เชิงนวัตกรรมยังมีน้อยมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศ บทความตอนนี้จึงจะลงลึกในประเด็นดังกล่าว
ดัชนีประสิทธิผลภาคเอกชน แบ่งตัวชี้วัดออกเป็น 3 หมวด คือ หมวดด้านการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ หมวดความรับผิดชอบต่อสังคม และหมวดสถาบันภาคเอกชน ซึ่งหมวดสถาบันภาคเอกชนได้คะแนนต่ำสุด