เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ
60
ปีที่ผ่านพ้นไป
ได้สร้างความสุขและความปลาบปลื้มใจแก่คนไทยทั้งประเทศ
เพราะได้ร่วมแสดงความจงรักภักดีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รวมถึงการมีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพในการต้อนรับการเสด็จเยือนไทยของพระราชอาคันตุกะ
25
ประเทศ
การมาเยือนของพระราชอาคันตุกะตลอด
1
สัปดาห์ยังส่งผลดีต่อภาพรวมของประเทศในหลายด้าน
ที่เห็นได้ชัดเจนคือ
ผลในด้านการค้า
การท่องเที่ยวและการลงทุน
อันได้แก่
การสร้างโอกาสทางการค้าแก่สินค้าไทย
พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ
60
ปีเป็นช่องทางในการสร้างชื่อเสียงและเปิดตัวสินค้าไทยหลายรายการแก่พระราชอาคันตุกะและชาวต่างชาติที่ได้รับชมข่าวราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ
ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ได้ถวายเป็นของที่ระลึก
อาทิ
ผ้าไหมยกทองโบราณและภาพจิตรกรรมเรื่องราวในวรรณคดี
และสินค้าที่อยู่ในสถานที่ที่เสด็จเยือน
อาทิ
ผ้าไหมไทยซึ่งได้รับความสนใจจาก
สมเด็จพระราชินีมาเลเซีย
มงกุฎราชกุมารแห่งลิกเตนสไตน์และเจ้าชายแห่งโมนาโก
การแสดงโขนที่ได้รับคำชมจากเจ้าชายแห่งโอมาน
ความสนพระทัยเรื่องประเทศไทยของพระราชอาคันตุกะเป็นโอกาสขยายการค้า
เพราะประมุขหลายประเทศยังมีอิทธิพลต่อการบริหารประเทศ
เช่น
ประเทศภูฎาน
ประเทศคูเวต
ประเทศบาเรห์น
ประเทศสวาซิแลนด์
ประเทศเอมิเรต์
การสร้างโอกาสด้านธุรกิจการท่องเที่ยว
การเชิญบรรดาราชวงศ์และผู้นำต่างประเทศมาเยือนนั้น
ทำให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวได้รับผลดีโดยตรง
เพราะพื้นที่ที่พระราชอาคันตุกะไปเยือนจะได้รับความสนใจมากขึ้น
ขณะที่องค์กรเอกชนและภาครัฐบาลได้เร่งจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ได้ชมการถ่ายทอดพระราชพิธี
อาทิ
ทัวร์ตามรอยพระราชอาคันตุกะ
ตามรอยเรือพระที่นั่ง
แหล่งท่องเที่ยวจากโครงการในพระราชดำริ
ซึ่งเป็นช่องทางในการสร้างจุดขายใหม่ให้แก่ตลาดการท่องเที่ยว
โดยเฉพาะกลุ่มตลาดการท่องเที่ยวของไทยไม่ว่าจะเป็น
อังกฤษ
ญี่ปุ่น
สแกนดิเนเวีย
ตะวันออกกลาง
ที่มีพระราชอาคันตุกะประเทศนั้นมาเยือน
การเรียกความเชื่อมั่นในกลุ่มนักลงทุน
ภาพของการเฉลิมฉลองที่เผยแพร่ทางสื่อส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
เพราะเป็นภาพที่สะท้อนว่าคนไทยมีเอกภาพด้วยพระบารมีของในหลวงที่ทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนทั้งประเทศ
และสะท้อนภาพความปลอดภัยเพราะระบบรักษาความปลอดภัยที่รัดกุมจนได้รับคำชมจากประมุขทุกประเทศว่าได้รับอารักขาเป็นอย่างดี
รวมถึงสัญญาณที่ดีจากนักลงทุนของประเทศที่พระราชอาคันตุกะเสด็จเยือน
เช่น
อังกฤษ
ญี่ปุ่น
เดนมาร์ก
ที่ยืนยันว่าจะมีการลงทุนกับไทย
ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่าบรรยากาศการลงทุนในประเทศอาจดีขึ้น
นอกจากผลดีในด้านเศรษฐกิจแล้ว
การมาเยือนของพระราชอาคันตุกะเป็นการแสดงให้เห็นว่า
สถาบันกษัตริย์แต่ละประเทศต่างให้เกียรติกันและกัน
และต้องการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ส่งผลดีต่อการยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตในระดับต่าง
ๆ
การยกระดับความสัมพันธ์กับประเทศที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับประเทศไทย
ผู้นำจากบางประเทศที่ไม่ได้เยือนประเทศไทยมาเป็นเวลานานแล้ว
หรือไม่เคยมาเยือนอย่างเป็นทางการ
การได้มาเข้าร่วมงานนี้เสมือนประกาศความสัมพันธ์ระดับของราชวงศ์เป็นครั้งแรก
อาทิ
ประเทศเลโซโทที่แม้มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตตั้งแต่ปี
พ.ศ.
2532
แต่ไม่เคยมีหลักฐานการมาเยือนอย่างเป็นทางการของพระประมุข
ประเทศลิกเตนสไตน์ที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยได้เพียง
9 ปี
และไม่มีการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตในไทย
แต่ใช้วิธีการมอบหมายให้เอกอัครราชทูตจีนที่มีเขตครอบคลุมประเทศไทยด้วย
การกระชับความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับประเทศที่สัมพันธ์ดีกับไทย
หลายประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทยทั้งในมิติของความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ต่อราชวงศ์
ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาล
ความสัมพันธ์ทางการทูต
และความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศ
การมาครั้งนี้จึงเป็นการแสดงไมตรีจิต
และยืนยันความสัมพันธ์ที่อาจนำไปสู่การสานต่อความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุน
เช่น
ประเทศคูเวตที่มีความสัมพันธ์ทางการค้าและแรงงานที่ดีกับไทยตลอดมา
ประเทศญี่ปุ่นที่มีความสัมพันธ์ทางราชวงศ์ที่ดีต่อกันเห็นได้จากการเสด็จเยือนกันและกันมาโดยตลอด
ประเทศมาเลเซียที่แสดงออกอย่างชัดเจนในความสัมพันธ์ที่ดีโดยการปล่อยตัวคนไทยที่กระทำความผิด
121
คนกลับสู่มาตุภูมิ
นอกจากนี้ผู้นำของประเทศอื่นที่ไม่มีพระมหากษัตริย์ต่างร่วมแสดงความยินดี
ยกย่องและแสดงท่าทียืนยันสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้ยืนนาน
อาทิ
การส่งสาสน์ถวายพระพรชัยมงคลจากผู้นำประเทศจีน
ฟิลิปปินส์
เม็กซิโก
รวมถึงข้อมติร่วมของรัฐสภาสหรัฐอเมริกาที่
409
และหนังสือจากประธานาธิบดีประเทศสิงคโปร์
ที่ยืนยันที่จะสานสัมพันธ์ที่ดีกับไทยให้ยืนนาน
การมารวมตัวกันของราชวงศ์ทั่วโลกนับว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน
แต่ล้วนเป็นผลจากพระราชกรณียกิจที่ในหลวงได้ทรงตรากตรำทำงานมาตลอดการครองราชย์
ด้วยเหตุนี้คนไทยทุกคนควรย้อนกลับมาพิจารณาว่า
เราได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นอย่างมาก
แล้วเราคิดที่จะคืนอะไรให้แก่ชาติและจะทำอะไรเพื่อในหลวงได้บ้าง
|