เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
เห็นรายนามผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภาปีนี้กันไปแล้ว
หลังจากที่คณะกรรมการเลือกตั้ง
(กกต.)
ได้เปิดรับสมัครไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยมีผู้สมัครกว่า
1200
คนทั่วประเทศ
ทั้งกลุ่มนักวิชาการ
อาจารย์มหาวิทยาลัย
นักสื่อสารมวลชนคนบันเทิง
กลุ่มข้าราชการ
อดีตนักการเมือง
และกลุ่มวิชาชีพอื่น
ๆ
จากหลากหลายอาชีพ
เป็นที่น่าสังเกตว่าในปีนี้มีผู้สมัครซึ่งเป็นสามี-ภรรยาหรือญาติพี่น้องกับนักการเมืองในคณะรัฐบาลและอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในชุดที่ผ่านมาอยู่เป็นจำนวนมาก
จนเป็นที่จับตากล่าวหากันว่าระบบรัฐสภาไทยที่มีการคานอำนาจระหว่างกันจะ
กลายพันธุ์เป็นสภาผัวเมียที่คอยเอื้อประโยชน์ให้แก่กันหรือไม่
?
คำตอบอยู่ที่การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา
หรือ สว.ที่จะเกิดขึ้นในวันที่
19
เมษายน
2549
นี้ว่า
วุฒิสภาจะถูกอำนาจของฝ่ายบริหารเข้าแทรกแซงและครอบงำอย่างเบ็ดเสร็จมากน้อยเพียงใด
หากเครือญาติและเพื่อนพ้องของนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลถูกเลือกเข้ามามาก
โดยคนเหล่านี้ไร้คุณภาพ
นั่นอาจหมายถึงการเดินทางเข้าสู่
หายนะทางการเมือง
ที่ระบบการตรวจสอบและการถ่วงดุลอำนาจระหว่างฝ่ายบริหาร
นิติบัญญัติ
และตุลาการ
จะถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง
ยิ่งไปกว่านั้น
องค์กรอิสระที่เกิดขึ้นโดยวุฒิสภาเป็นผู้เลือกสรร
อาทิ กกต.
ศาลรัฐธรรมนูญ
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
(ปปช.)
คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
(คตง.)
ฯลฯ
จะไม่เป็นอิสระอย่างแท้จริง
และไม่สามารถใช้อำนาจได้อย่างเที่ยงตรง
โปร่งใสตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
หากคนเก่งคนดีมีความรู้คู่คุณธรรม
ถูกเลือกเข้ามามาก
นั่นหมายถึงปัญหาต่าง
ๆ
ที่กำลังเดินมาถึงทางตันจะได้รับการปลดล็อคและคลี่คลาย
วิกฤตศรัทธาในองค์กรอิสระต่าง
ๆ
จะได้รับการแก้ไข
การตรวจสอบและดำเนินคดีกับนักการเมืองที่ได้รับข้อกล่าวหาว่าประพฤติมิชอบและฉ้อฉลจะเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสรรหา
ปปช.
ที่อยู่ในภาวะสุญญากาศในปัจจุบัน
จะทำให้คดีทุจริตที่คั่งค้างจำนวนมากได้รับการสะสางอย่างเที่ยงธรรม
การเลือก
สว.
ที่จะมาถึงนี้
ผมอยากให้มิตรสหายทำการบ้านกันสักนิดในการศึกษาข้อมูลของผู้สมัครแต่ละท่านอย่างละเอียดจริง
ๆ
อย่าเลือกเพียงเป็นคนเด่นคนดัง
หรือ
คนที่ดูมีสีสรรเท่านั้น
แต่ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย
อาทิ
ความรู้
ความสามารถ
ประวัติการศึกษา
ประวัติการทำงาน
อุดมการณ์
การทำงานเพื่อสังคม
ความเป็นกลางอันปราศจากซึ่งผลประโยชน์แอบแฝง
ฯลฯ
แม้ผู้สมัคร
สว.บางท่านจะไม่คุ้นหน้ามาก่อน
แต่เราไม่ควรมองข้ามไป
ควรเปิดใจอย่างเป็นกลางในการพิจารณาเลือกคนที่เหมาะสมเข้ามาทำภาระกิจสำคัญนี้แทนท่านในสภา
เพื่อฝ่าวิกฤติการเมืองอันตีบตันนี้ไปได้โดยเร็ว
|