เมื่อวันที่
22
กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้เชิญ ศาสตราจารย์
Ariel Rubinstein
มาบรรยายปฐากถาพิเศษในเรื่อง John
Nash, A Beautiful Mind, and Game Theory
ซึ่งเนื้อหาเป็นบทวิพากษ์และข้อคิดเกี่ยวกับทฤษฎีเกม รวมทั้งเรื่องราวของ
John Nash ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ปี 1994
ที่มาของภาพยนตร์ระดับรางวัล Oscar เรื่อง
A Beautiful Mind
ต้องขออธิบายก่อนว่า ทฤษฎีเกมเป็นทฤษฎีที่อธิบายพฤติกรรมการตอบโต้
(Interaction)
ระหว่างบุคคล 2 บุคคล หรือมากกว่านั้น
ว่าเขาจะมีการตัดสินใจอย่างไร ตัวอย่างคลาสสิกของทฤษฎีเกมคือ ทางเลือกของนักโทษ
(Prisoners Dilemma) ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่มีนักโทษอยู่ 2
คนที่ทำความผิดร่วมกัน นักโทษแต่ละคนมีทางเลือกอยู่ 2
ทาง คือสารภาพความผิดตามจริง
กับปฏิเสธข้อกล่าวหา
สุดท้ายทฤษฎีเกมพยากรณ์ว่านักโทษทั้งคู่จะเลือกที่จะสารภาพความผิด
ก่อนปาฐกถา
ศาสตราจารย์ได้นำเกมที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีเกมลงในอินเทอร์เน็ต
ให้ผู้สนใจเข้าไปทดลองเล่นก่อน
และนำผลการตัดสินใจของผู้เล่นคนไทยไปนำเสนอในการบรรยายด้วย
จุดที่ผมสนใจคือ มีผู้ถามศาสตราจารย์
Rubinstein
ว่าทฤษฎีเกมสามารถนำไปใช้ประโยชน์ใดได้บ้าง
ซึ่งท่านได้ตอบอย่างน่าฟังว่า
ในขณะนี้นั้นทฤษฎียังไม่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้มากมายเท่าไร
แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้เราไม่ควรศึกษาทฤษฎีเกมต่อไป
การไม่เห็นประโยชน์ในปัจจุบันไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีประโยชน์ในอนาคต
เช่นเดียวกับทฤษฎีทางฟิสิกส์ซึ่งในระยะแรก ๆ นั้นยังไม่เห็นประโยชน์อะไร
แต่เราสามารถนำความรู้จากทฤษฎีฟิสิกส์เหล่านั้นมาประยุกต์และพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ
ได้อย่างมากมายในปัจจุบัน
สิ่งที่ศาสตราจารย์
Rubinstein พูดนั้น
ได้ตอกย้ำความเชื่อของผมข้อหนึ่ง คือ
ทุกอย่างเริ่มต้นจากความคิดที่เป็นปรัชญาชีวิตของเรา หากเราคิดถูกตั้งแต่ต้น
สิ่งที่ทำตามมาจะถูกต้องด้วย แต่หากเรามีความคิดปรัชญาที่ผิด
แม้วิธีการปฏิบัติดูเหมือนจะถูก แต่สุดท้ายสิ่งที่ตามมาไม่อาจถูกต้องได้
ในทฤษฎีเกมมีกลยุทธ์แบบหนึ่งที่น่าสนชื่อ กลยุทธ์
Maximin
ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ผู้ตัดสินใจจะเลือกกลยุทธ์ที่มีโอกาสของผลตอบแทนที่มีค่าสูงที่สุดภายใต้ทางเลือกที่มีอยู่ซึ่งล้วนให้ผลตอบแทนที่ต่ำที่สุด
หรือเราเรียกแนวคิดแบบ
Maximin นี้ให้เห็นภาพได้ว่า ปลอดภัยไว้ก่อน
(Safety first)
ตัวอย่างง่ายๆ
เช่น สมมติเรามีเงินอยู่
100 บาท และมีกลยุทธ์ 2
ทางคือฝากธนาคารได้ดอกเบี้ย 3 สลึงต่อปี
กับเล่นหวยบนดินซึ่งอาจได้รางวัลสูงถึงหลายล้านบาท
แต่มีโอกาสที่จะไม่ถูกรางวัลใดเลย หากเราตัดสินใจแบบ Maximin
เราย่อมต้องเลือกนำเงินฝากธนาคาร เพราะแม้จะได้ดอกเบี้ยแค่
3 สลึงแต่ยังดีกว่าหวยบนดิน ซึ่งมีโอกาสที่จะไม่ถูกรางวัลใดเลย
และต้องเสียเงิน 100
บาทไปไม่ได้ผลตอบแทน
ศาสตราจารย์
อมาตยาเซน ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์เอเชียที่ได้รับรางวัลโนเบล
และเป็นท่านแรกที่เสนอแนวคิดให้รัฐบาลมีปรัชญาแบบ
Maximin
ในการวางแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ พร้อมสนับสนุนนโยบายด้านสวัสดิการ (ในแบบที่ถูกต้องไม่ใช่แบบหว่านเงิน)
แก่กลุ่มคนยากจนด้วย
หากรัฐบาลนำแนวคิดแบบ
Maximin
มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศแล้ว
รัฐบาลจะเลือกยุทธศาสตร์ที่ทำให้กลุ่มคนที่มีความเป็นอยู่แย่ที่สุด
มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมากที่สุด
แม้ว่ายุทธศาสตร์นั้นอาจจะไม่ทำให้รายได้รวมของคนทุกกลุ่มในประเทศ
ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์เรียกว่า รายได้ประชาชาติ หรือ GDP
ดีขึ้นมากที่สุดก็ตาม
เมื่อหันไปมองแนวคิดของปัจจุบัน แม้รัฐบาลจะประกาศให้ความสำคัญแก่ความยากจนมาก
แต่พฤติกรรมส่วนใหญ่ยังแสดงว่ารัฐบาลยังมีแนวคิดที่ทำให้
GDP
ซึ่งวัดรายได้ของทุกคนในประเทศรวมกัน
เติบโตมากที่สุดเป็นหลัก
มากกว่าที่จะสนใจให้กลุ่มคนที่มีความเป็นอยู่แย่หรือคนยากจนดีขึ้นมากที่สุด
หลักฐานที่สนับสนุนความคิดนี้ คือ ข้อสังเกตของ ศ.ดร.ปราณี
ทินกร คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ได้นับจำนวนครั้งที่นายกรัฐมนตรีพูดถึงเป้าหมายทางเศรษฐกิจด้านต่าง ๆ
พบว่าเป้าหมายด้านการเติบโต (ของ GDP)
เป็นเป้าหมายที่ถูกพูดถึงมากที่สุด
มากกว่าอันดับสองคือเป้าหมายด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจหลายเท่า
ส่วนเป้าหมายด้านการกระจายรายได้ ซึ่งสะท้อนแนวคิดแบบ Maximin
นั้นแทบไม่ได้ถูกพูดถึงเลย
นั่นอาจสะท้อนถึงคำว่า
หัวใจคือประชาชน
ว่า ประชาชน
ที่อยู่ใน หัวใจ
ของท่านนายกทักษิณอาจไม่ใช่คนกลุ่มเดียวกันกับที่ศาสตราจารย์มาตยาเซนพูดถึงกระมัง?