จากกรณีการขายหุ้นของกลุ่มชินคอร์ปมูลค่ากว่า 7
หมื่นล้านที่ผู้ขายหุ้นไม่ต้องจ่ายภาษีแก่เลยแม้แต่บาทเดียวนั้นเป็นผลสืบเนื่องมาจากโครงสร้างภาษีกำไรจากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่ไม่เป็นธรรมและมีการเปิดช่องให้หลบเลี่ยงภาษีได้โดยง่าย
นับเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทบทวนแก้ไขอย่างเร่งด่วน
แม้ว่าการยกเว้นภาษีกำไรจากการซื้อขายหุ้น (capital
gain tax)
สำหรับบุคคลธรรมดาที่ซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เป็นไปเพื่อสนับสนุนการลงทุนของผู้ลงทุนรายย่อยในตลาดหลักทรัพย์
แต่การใช้คำว่า บุคคลธรรมดา ไม่ได้เป็นนิยามที่ชัดเจนของนักลงทุนรายย่อย
เพราะบุคคลธรรมดาอาจได้กำไรมากกว่าการที่นิติบุคคลบางส่วนซื้อขายหุ้นด้วยซ้ำ
และยังทำให้เกิดช่องทางในการหลบเลี่ยงภาษีโดยการซื้อขายหุ้นในนามบุคคลธรรมดา
รวมทั้งยังทำให้โครงสร้างภาษีไม่เป็นธรรม
เพราะบุคคลธรรมดาที่ได้กำไรมากหรือน้อยก็ไม่เสียภาษีเหมือนกัน
ต่างจากหลักการเก็บภาษีรายได้บุคคลธรรมดาที่เป็นอัตราก้าวหน้า
และมีการยกเว้นภาษีให้ผู้มีรายได้น้อยกว่าเกณฑ์
นอกจากนี้
กรณีที่ราคาหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นจากผลของนโยบายรัฐ
ผู้ที่ได้ประโยชน์จากหลักทรัพย์นั้นควรเสียภาษีรายได้ที่เกิดจากการถือทรัพย์สินด้วย
ยกตัวอย่างที่ดินที่มีถนนตัดผ่านทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้น
เจ้าของที่ดินควรจะต้องจ่ายภาษีจากส่วนต่างราคาที่ดินที่สูงขึ้นด้วย
เพราะได้รับประโยชน์จากโครงการของรัฐ และที่ผ่านมากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ในกลุ่มชินคอร์ปได้รับประโยชน์จากนโยบายของรัฐจำนวนมาก
เช่น ดาวเทียมไอพีสตาร์ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนยกเว้นภาษีเงินได้ 8 ปี เอไอเอสได้รับประโยชน์จาก
พ.ร.ก.ภาษีสรรพสามิต เป็นต้น
ทำให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทได้กำไรจากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นแต่กลับไม่เสียภาษีเลย
ผมขอเสนอว่า รัฐบาล ตลาดหลักทรัพย์ และกลต.จำเป็นต้องร่วมกันทบทวนและปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบที่สร้างความไม่เป็นธรรมในสังคม
และทำให้เกิดช่องว่างในการหลบเลี่ยงภาษี
โดยผมขอเสนอมาตรการหนึ่งที่อาจช่วยแก้ปัญหาการหลบเลี่ยงภาษีที่เกิดขึ้น
โดยกำหนดให้มีเพดานรายได้ของบุคคลธรรมดาที่ได้กำไรจากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
หากเกินเพดานนี้ เขาจะต้องเสียภาษีในอัตราก้าวหน้า
เหมือนกับการเก็บภาษีรายได้บุคคลธรรมดา
และหากท่านนายกฯต้องการจะนำรายได้จากการขายหุ้นเพื่อช่วยเหลือสังคม
สิ่งที่ทำได้ดีที่สุด ประการแรกคือการจ่ายภาษีอย่างที่ควรจะจ่าย
เพราะจะทำให้ประชาชนทุกคนในประเทศได้รับประโยชน์
ประการต่อมาคือแก้กฎระเบียบที่ไม่เป็นธรรมและเป็นช่องว่างในการหลบเลี่ยงภาษี
เพื่อไม่ให้คนอื่นหลบเลี่ยงภาษีได้อีก และประการสุดท้าย
คือไม่นำเงินไปใช้ในทางที่อาจก่อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนอีก