เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
ภายหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ทรงมีกระแสพระราชดำรัสต่อปัญหาสถานการณ์บ้านเมืองเมื่อวันที่
25
เมษายนที่ผ่านมา
หลายฝ่ายต่างร่วมแสดงตนน้อมรับในกระแสพระราชดำรัส
และนำไปปฏิบัติตามภาระหน้าที่ที่สามารถทำได้
ด้วยการคิดว่าจะช่วยกันคลี่คลายแนวทางต่างๆ
ให้เป็นไปตามพระราชประสงค์อย่างไร
หากพิจารณาจากแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ที่ได้ทรงรับสั่งให้ประธานศาลฎีกา
ประธานศาลรัฐธรรมนูญ
และประธานศาลปกครองสูงสุด
ไปหารือเพื่อหาทางออกให้กับวิกฤติของบ้านเมืองร่วมกัน
โดยเฉพาะในเรื่องของการเลือกตั้งที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้
พบว่าในขณะนี้ได้มีผู้ที่เกี่ยวข้องบางส่วน
ได้ออกมาแสดงจุดยืน
ในการที่จะรอฟังผลการหารือของทั้ง
3 ศาล
ในเรื่องการเลือกตั้ง
เช่น
อดีตพรรคร่วมฝ่ายค้าน
ที่แต่ละพรรคต่างน้อมรับในกระแสพระราชดำรัส
และพร้อมจะให้ความร่วมมือต่อการดำเนินการขององค์กรศาล
และงดแสดงความคิดเห็นในเรื่องการเมือง
จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยอออกมา
ในส่วนของรัฐบาลรักษาการ
และคณะกรรมการการเลือกตั้ง
กลับแสดงท่าทีว่า
การเลือกตั้งต้องเดินไปตามปกติทุกอย่าง
โดยทางฝ่ายรัฐบาลได้ยืนยันให้มีการเลือกตั้งต่อไป
และให้เหตุผลว่า
เพื่อให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย
สำหรับคณะกรรมการการเลือกตั้งกล่าวว่า
สิ่งที่
กกต.
ต้องทำเพื่อให้เป็นไปตามพระราชดำรัสคือ
ทำให้มีสภาเพื่อให้มีรัฐบาลต่อไป
โดย กกต.
จะพิจารณารับรองส.ส.
ให้ครบตามแนวทางที่
กกต.
เคยบอกไว้ในตอนแรก
การแสดงท่าทีดังกล่าวของทั้ง
2
องค์กรนั้น
อาจดูเป็นการไม่เหมาะสมในสถานการณ์ขณะนี้
เนื่องจากขณะนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า
คำวินิจฉัยของทั้ง
3
ศาลจะออกมาในรูปแบบใด
โดยหากมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งในขณะนี้
อาจส่งผลกระทบหากการกระทำนั้นอาจขัดต่อคำวินิจฉัยของทั้ง
3
ศาลที่จะมีมาในภายหลัง
ซึ่งอาจเป็นการสร้างความสับสน
วุ่นวายให้เกิดขึ้นในสังคมอีกครั้ง
ผมเห็นว่า
ในเวลานี้ทุกฝ่าย
โดยเฉพาะฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งนั้น
ควรหยุดดำเนินการด้านการเมืองเป็นการชั่วคราว
โดยรอฟังคำวินิจฉัยของทั้ง
3 ศาล
และเมื่อมีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว
ทุกฝ่ายจึงน้อมรับและนำไปปฏิบัติร่วมกัน
ตามบทบาทและหน้าที่ของตนต่อไป
สิ่งที่สำคัญอีกประการคือ
ผมเชื่อว่าความคาดหวังของประชาชน
ต่อการหาทางออกให้กับวิกฤตบ้านเมืองของประธานของ
ทั้ง 3
ศาลนั้น
ไม่เพียงการเชื่อในเรื่องความรู้
ความสามารถ
และวิจารณญาณของท่านประธานของทั้ง
3
ศาลที่มีประสบการณ์ในสายงานของตนเท่านั้น
แต่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการเห็นการตัดสินใจที่กอรปด้วยคุณธรรมจริยธรรม
ความยุติธรรม
และความเป็นกลาง
ของท่านผู้มีหน้าที่วินิจฉัยทุกท่าน
เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับคนในชาติ
อันจะนำไปสู่การสร้างความปรองดอง
ร่วมมือในการดำเนินงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป
|