Go www.kriengsak.com

ประวัติ

ครอบครัว

งานวิชาการ

กิจกรรม

Press

Contact us

ค้นหา

 

 ขอเสนออย่างสร้างสรรค์


เกมเศรษฐีภาคขยาย
Extended Monopoly Game

 

27 มกราคม 2549

 

เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก

ปี ค..1934 เป็นช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำที่สุดของอเมริกา ในปีนั้น นาย Charles B. Darrow ซึ่งกำลังตกงานอยู่นั้นได้ให้กำเนิดเกมกระดาน (Board game) ซึ่งเป็นที่แพร่หลายที่สุดเกมหนึ่งของโลก ซึ่งเขาตั้งชื่อว่า “Monopoly game” หรือที่คนไทยรู้จักกันในนาม “เกมเศรษฐี” ซึ่งได้แนวคิดบางส่วนมาจากการดำเนินธุรกิจของกลุ่มทุนในอเมริกาในสมัยนั้น

เกมเศรษฐีเป็นเกมที่มีจุดมุ่งหมายคือการเป็นผู้เล่นที่เหลืออยู่คนสุดท้ายในกระดาน โดยระหว่างการเล่น ผู้เล่นจะต้องซื้อที่ดินเก็บไว้พร้อมทั้งสร้างบ้านและโรงแรม เพื่อรอให้ผู้เล่นคนอื่นเดินหมากมาตกในที่ดินของตนและเก็บค่าเช่า ยิ่งมีที่ดินหรือสร้างบ้านหรือโรงแรมมากเท่าไรจะยิ่งเก็บค่าเช่าจากคู่แข่งได้มากเท่านั้น ดังนั้นผู้เล่นจะต้องซื้อที่ดิน สร้างบ้านและโรงแรมเก็บไว้ให้มากที่สุด เพื่อจะ “รีด” ค่าเช่าจากคู่แข่งจนกระทั่งคู่แข่ง “ถังแตก” ในที่สุด เพื่อจะเป็นผู้ชนะของเกม โดยที่เกมจะมีคนกลางทำหน้าที่เป็นนายธนาคารเพื่อจ่ายเงินแก่ผู้เล่นต่าง ๆ และควบคุมเกมให้เป็นไปตามกติกา

เวลาผ่านไป 70 ปี ในประเทศไทย มีผู้ผลิตนวัตกรรมใหม่ที่พัฒนาจากเกมเศรษฐีเดิมมาเป็น “เกมเศรษฐีภาคขยาย” (Extended Monopoly game) ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อ “ฆ่า” คู่แข่งให้หมดเพื่อเหลือตนเองให้เป็นผู้เล่นรายสุดท้าย แต่ต่างกันที่กลยุทธ์ของธุรกิจที่พัฒนาไปมาก ทั้งฉลาดขึ้น แนบเนียนขึ้นและโหดเหี้ยมยิ่งขึ้น

กลยุทธ์ในการเล่นในเกมเศรษฐีภาคขยายนั้น แทนที่ผู้เล่นจะพยายามครอบครองทรัพย์สินให้มากที่สุดเพื่อรีดค่าเช่าจากคู่แข่งอย่างแต่ก่อน แต่กลยุทธ์กลับกลายเป็นผู้เล่นสามารถตีคู่แข่งให้แตกพ่ายก่อนแล้วจึงครอบครองทรัพย์สินได้ เนื่องจากเกมเศรษฐีภาคขยายนี้ผู้เล่นสามารถเข้าไปควบตำแหน่ง “นายธนาคาร” เพื่อเปลี่ยนกฎเกณฑ์กติกาได้เอง !!!

เช่น หากต้องการจะทำกำไรในกิจการโรงพยาบาล ผู้เล่นในฐานะ “นายธนาคาร” สามารถที่จะออกนโยบาย “30 บาทรักษาทุกโรค” พร้อมให้งบประมาณสนับสนุนอย่างจำกัด เพื่อให้หมอและโรงพยาบาลของรัฐต้องรักษาคนไข้ด้วยคุณภาพต่ำ ทำให้ประชาชนที่พอจะมีรายได้แต่ไม่อยากรอคิวเข้า ร.พ.ของรัฐ จึงยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อใช้บริการของโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งผู้เล่นได้เข้าไปซื้อกิจการ (take over) ไว้แล้วก่อนหน้านั้น

หรือหากต้องการจะครอบครองกิจการสายการบิน ผู้เล่นในฐานะนายธนาคารสามารถสั่งให้สายการบินประจำชาติปิดเที่ยวบินที่ทำกำไร และตั้งสายการบินแบบต้นทุนต่ำ (Low cost) ขึ้นมาให้บริการในเที่ยวบินนั้นแทนได้

ในเกมเศรษฐีแบบเก่า หากผู้เล่นซื้อที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างไปเรื่อย ๆ จะทำให้หมดเงินที่จะซื้อต่อ และต้องทอยลูกเต๋าเพื่อเดินให้ครบรอบกระดานเสียก่อนจึงจะสามารถรับเงินเดือนเพื่อนำมาลงทุนในทรัพย์สินอื่นเพิ่มขึ้นได้ แต่เกมเศรษฐีภาคขยายนี้ผู้เล่นไม่จำเป็นทอยลูกเต๋าจนเดินครบรอบ แต่สามารถขายหุ้นที่ถือไว้อยู่แล้วให้แก่บริษัทต่างชาติ เพื่อแปลงหุ้นเป็นเงินทุนเพื่อรอการลงทุนในกิจการใหม่ ๆ ที่ทำกำไรมากกว่ากิจการเดิม จึงสามารถระดมเงินได้จำนวนมาก อาจเป็นตัวเลข 100 ล้าน หรือ 1,000 ล้าน หรืออาจถึง 73,000 ล้านบาท เนื่องจากผู้เล่นในฐานะนายธนาคารได้แก้กติกาให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นไม่เกินร้อยละ 50 (จากเดิมไม่เกินร้อยละ 25) ไปเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งภาษีจากการขายหุ้นยังไม่ต้องเสียแม้แต่บาทเดียว

ผมคิดว่า หากปัจจัยอื่น ๆ ยังคงที่ (Ceteris Paribus) เช่น ไม่มีผู้ใหญ่มาล้มกระดานเพื่อไล่เด็กไปทำการบ้านก่อน หากผู้เล่นดำเนินการตามกลยุทธ์นี้ เขาอาจสามารถนำเงินที่ได้นี้รุกคืบเข้าไปในกิจการอื่น ๆ ที่มีอนาคตมากกว่ากิจการเดิมได้ โดยดำเนินกลยุทธ์ดังเดิม และอีกไม่นาน ผู้เล่นคนนี้อาจสามารถครอบครองทรัพย์สินได้ (เกือบ) หมดทั้งกระดาน

มิตรสหายที่รัก คงพอจะทราบว่า ใครเป็นผู้คิดเกมนี้ขึ้น ?