เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
ในช่วงที่ผ่านมา
ไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ
ชินวัตร
รักษาการนายกรัฐมนตรี
จะเดินทางไปที่ใด
มักจะมีประชาชนกลุ่มหนึ่งมายืนตะโกนขับไล่
และหลายครั้งเป็นเหตุให้เกิดการปะทะกัน
ทั้งปะทะคารม
จนถึงใช้ความรุนแรง
ดังเช่นที่สยามพารากอน
มีเหตุการณ์
รปภ.เข้าทำร้ายประชาชน
นับเป็นการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ
ทั้ง ๆ
ที่เป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย
หลายฝ่ายมองว่า
ความขัดแย้งและความแตกแยกจะเพิ่มทวีขึ้น
ระหว่างฝ่าย
เชียร์
กับฝ่าย
ไล่
โอกาสที่จะใช้ความรุนแรงเข้าปะทะกันมีความเป็นไปได้สูง
จากเหตุการณ์ในช่วงที่ผ่านมา
ลองคิดดูว่า
ใครได้ประโยชน์มากกว่า?
เมื่อวิเคราะห์เหตุการณ์ในช่วงที่ผ่านมา
ผมคิดว่า
การตะโกนขับไล่เมื่อนายกฯเดินทางไปที่ต่าง
ๆ
เช่นนี้
จะยิ่งส่งผลดีต่อการหาเสียงของพรรคไทยรักไทย
และการสร้างภาพลักษณ์ของรักษาการนายกฯ
ในสายตาของคนที่ชื่นชมอีกทั้งเป็นช่องทางทำลายฝ่ายพันธมิตรด้วยการให้ข่าวกล่าวหาเสียงด้านเดียวด้วยข้อกล่าวหาที่รุนแรงอาทิ
นพ.สุรพงษ์
สืบวงศ์ลี
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
แถลงเมื่อวันที่
20
สิงหาคม
ตอนหนึ่งกล่าวว่า
การต่อต้านผ่านงานเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ
60
ปี
ถือว่าไม่รู้จักกาละเทศะและไม่บังควร
จึงขอเรียกร้องให้ทุกคนร่วมกันประณามการกระทำแบบนี้
เพราะหากไม่ร่วมกันประณามจะกลายเป็นเรื่องปกติ
นายจตุพร
พรหมพันธุ์
รองโฆษกพรรคไทยรักไทย
แถลงประณามกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ส่งคนไปก่อกวนในงาน
เป็นการชุมนุมแบบกองโจร
และเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์
สุวรรณฉวี
กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
กล่าวว่า
มีขบวนการพยายามใช้กติกานอกรัฐธรรมนูญที่จะให้นายกรัฐมนตรีเว้นวรรคและออกไปจากการเมืองไทย
เพราะหากเป็นนายกฯอยู่ไม่มีใครสู้ได้
.ข่าวลึก
ๆ
ถึงขั้นจะมีการปองร้ายเอาชีวิตนายกรัฐมนตรี
การให้ข่าวเช่นนี้
ย่อมเป็นการแสดงความพยายามอย่างยิ่งที่จะให้ข่าวนั้นเป็นผลดีกับผู้นำและพรรคของตน
โดยไม่สนใจในความถูกต้องของข่าวที่สื่อออกไป
ที่สำคัญ
ไม่มีผู้ใดในพรรคไทยรักไทยที่กล่าวถึง
กรณีที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์
ไม่มีอาวุธ
ถูก รปภ.
ที่คอยอารักขารักษาการนายกฯทำร้าย
ไม่มีการกล่าวว่าจะลงโทษ
รปภ.
เหล่านี้อย่างไร
ทั้ง ๆ
ที่เป็นการทำร้ายประชาชนและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชัดแจ้ง
ในช่วงใกล้เลือกตั้ง
ความปรารถนาที่จะหาเสียงให้ได้มากที่สุด
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด
ในโอกาสใด
ย่อมเกิดขึ้น
โดยไม่สนใจว่า
สิ่งที่ทำนั้นถูกต้องยุติธรรมหรือไม่
ที่สำคัญ
ไม่สนใจว่าสิ่งที่สื่อออกไปจะยิ่งก่อความรุนแรงและความแตกแยกมากขึ้นเพียงใดในหมู่ประชาชน

|