เลือกตั้ง สว.ครั้งใหม่
ควรมีหน่วยงานเป็นกลางทางการเมืองจัดเรทติ้ง
(rating) ผู้สมัคร สว.แต่ละคน
เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทำความรู้จักและเปรียบเทียบคุณสมบัติของผู้สมัครแต่ละคนได้โดยง่าย
เนื่องด้วยสมาชิกวุฒิสภาชุดแรกที่มาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฯ
พ.ศ.2540
กำลังจะหมดวาระลงในปี 2549 และคณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดวันเลือกตั้ง
ในวันพุธที่ 19 เมษายน 2549
การเลือกตั้ง สว.เป็นประเด็นที่ผมได้ติดตามและเสนอความเห็นมาโดยตลอด
ในช่วงเวลาของการร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ผมได้เสนอให้มีการเลือกตั้ง
2 มิติคือ
มิติพื้นที่ตามขอบเขตจังหวัด และมิติกลุ่มผลประโยชน์ เช่น วิชาชีพ
ชาติพันธุ์ ศาสนา เป็นต้น เพื่อให้ สว.เป็นตัวแทนของคนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง
ต่อมา ผมได้วิเคราะห์วิธีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
สว. ด้วยวิธี Monte
Carlo Simulation เพื่อ คำนวณหาจำนวนหมายเลขที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งควรมีสิทธิลงคะแนน
เพื่อจะทำให้ได้ตัวแทนที่คนส่วนใหญ่พึงพอใจมากที่สุด ผมพบว่าการให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีสิทธิกาได้เท่ากับจำนวน
สว.ในจังหวัดนั้น
เป็นวิธีที่สามารถตอบสนองความต้องของคนส่วนใหญ่ได้มากกว่าระบบวันแมนวันโหวต
ระบบการเลือกตั้ง
สว.ยังมีปัญหาอีกประการหนึ่ง ที่อาจทำให้เราได้
สว.ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด
หรือมีฐานคะแนนเสียงจัดตั้งมากที่สุด แต่อาจไม่ใช่คนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด
เนื่องจากข้อจำกัดทางกฎหมาย ในการใช้สื่อต่าง ๆ
เพื่อแนะนำตัวเองให้ประชาชนรู้จัก
ผมจึงมีแนวความคิดว่า
หากมีหน่วยงานที่เป็นกลางทางการเมือง ทำหน้าที่ตรวจสอบและจัดระบบข้อมูลของผู้สมัคร
สว.ทุกคน
เพื่อความสะดวกในการทำความรู้จักผู้สมัครแต่ละคน อันเป็นการลดปัญหาความไม่สมบูรณ์ของข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับตัวผู้สมัคร
รูปแบบหนึ่งในการจัดระบบข้อมูลผู้สมัคร
คือการจัดเรทติ้ง (rating)
ผู้สมัครแต่ละคน โดยการจัดทำดัชนีชี้วัดคุณสมบัติด้านต่าง ๆ
เพื่อแปลงคุณสมบัติด้านนั้น ๆ ออกมาเป็นคะแนน
ซึ่งจะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถทำความรู้จักและเปรียบเทียบคุณสมบัติของผู้สมัครแต่ละคนได้โดยง่าย
แต่ให้ดัชนีรับการถกเถียงกันจนตกผลึกล่วงหน้าเพื่อความเห็นพ้องต้องกันว่าดัชนี
ตัวถ่วงน้ำหนัก และการถ่วงน้ำหนักเหมาะสมและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
ดัชนีชี้วัดควรได้รับการออกแบบอย่างเป็นวิทยาศาสตร์
และครอบคลุมคุณสมบัติด้านต่าง ๆ ทั้งความรู้
ทักษะและลักษณะชีวิตที่จำเป็นต่อการทำงาน สว.
และเป็นข้อมูลที่ประชาชนควรรู้ แต่ไม่ควรสลับซับซ้อนจนยากเกินความเข้าใจ
และไม่ควรคำนวณเป็นคะแนนรวมซึ่งจะเป็นการชี้นำว่าควรเลือกใครเป็น สว.