เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
เมื่อวันเสาร์ที่
19
สิงหาคม
ที่ผ่านมา
หากใครได้ฟังรายการนายกทักษิณพบประชาชน
ที่ใช้งบประมาณของประชาชนทั้งประเทศเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดรายการผ่านทางสถานีวิทยุของกรมประชาสัมพันธ์
จะพบว่ารักษาการนายกฯ
ใช้รายการนี้อย่างเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง
แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศหรือประโยชน์ทางการเมือง
ผมจึงอดไม่ได้ที่จะฝากถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง
(กกต.)
ชุดใหม่ที่กำลังจะมีขึ้น
ให้ช่วยเข้ามาตรวจสอบพฤติกรรมดังกล่าวว่ามีความเหมาะสมหรือไม่
เหตุที่ผมฝากให้
กกต.ชุดใหม่เข้ามาตรวจสอบ
เพราะตลอดการจัดรายการนายกทักษิณพบประชาชนเกือบ
1
ชั่วโมง
รักษาการนายกฯ
ได้กล่าวถึงนโยบายต่าง
ๆ
ที่รัฐบาลไทยรักไทยได้ดำเนินการอย่างน้อย
20
นโยบาย/โครงการ
สมกับที่รักษาการนายกฯ
กล่าวว่าการจัดรายการนี้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง
ซึ่งบางนโยบายที่รักษาการนายกฯ
ได้กล่าวถึงในรายการ
ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่รักษาการนายกฯ
ได้ดำเนินการตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
อาทิ
การแก้ปัญหายาเสพติด
บัตรสมาร์ตการ์ด
รวมถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจตลอด
5
ปีที่ผ่านมา
ที่ล้วนแล้วแต่เป็นตัวเลขเดิม
ๆ
ที่เคยนำมากล่าวอ้างแล้วหลายครั้ง
ตลอดการจัดรายการ
รักษาการนายกฯ
ยังพยายามกล่าวถึงด้านดีของนโยบายที่ได้ดำเนินการไปแล้ว
โดยผ่านประสบการณ์ส่วนตัวมากล่าวอ้างกับคนทั้งประเทศ
ซึ่งผมมองว่าการกล่าวถึงสิ่งดีในด้านเดียวเป็นสิ่งที่ไม่ครบถ้วน
และอาจเป็นการบิดเบือนความจริงในภาพรวมของนโยบายดังกล่าว
อาทิ
การเดินทางไปรับฟังปัญหาของรักษาการนายกฯ
กับผู้ว่าซีอีโอในจังหวัดหนึ่ง
แล้วสรุปเอาว่า
“ตั้งแต่มีผู้ว่าฯ
ซีอีโอ
ทำให้ระบบการบริหารจัดการดีขึ้น
ในอดีตไม่มีการบริหารจัดการ
มีแต่การฟังตามคำสั่ง
ไม่เข้าใจว่าประชาชนเป็นศูนย์กลางคืออะไร
แต่ปัจจุบันเห็นการทำงานแล้วเห็นว่ามีการพัฒนา”
แต่รักษานายกฯ
กลับไม่กล่าวถึงปัญหาของนโยบายดังกล่าว
อาทิ
ความซ้ำซ้อนในการบริหารจัดการระหว่างผู้ว่าฯ
กับส่วนราชการ
การใช้งบประมาณที่ขาดประสิทธิภาพและประสิทธิผลของผู้ว่าซีอีโอ
ฯลฯ
สิ่งที่น่าสังเกตตลอดการจัดรายการฯ
คือ
รักษาการนายกฯไม่กล่าวถึงนโยบายที่ล้มเหลวแม้แต่โครงการเดียว
โดยเฉพาะนโยบายเอื้ออาทรต่าง
ๆ หรือการอุดหนุนราคาน้ำมันจนทำให้กองทุนน้ำมันมีหนี้กว่า
8
หมื่นล้านบาท
โครงการไทยแลนด์อีลิทการ์ดที่ประสบความล้มเหลวในด้านยอดการจำหน่าย
หรือแม้แต่การทำสงครามกับการคอร์รัปชันที่รัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรเลย
ผมอยากฝากถึงรักษาการนายกฯ
ไม่อยากให้ท่านพยายามสื่อสารทางเดียว
และให้ข้อมูลเพียงด้านเดียวกับประชาชน
เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด
และนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดในอนาคตได้
|