เมื่อวันที่ 17
ก.ย.
ที่ผ่านมา นายกฯ
ได้กล่าวถึงการตำหนิหน่วยงานของสหประชาชาติในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน
ผ่านรายการนายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน
ผมได้ถือโอกาสใช้เวทีนี้ก็พูดกันตรง ๆ เลยว่าองค์การสหประชาชาติ
ทำงานโดยไม่ประสานหรือไม่ทำงานเป็นลักษณะของพาร์ทเนอร์ชิพ
กับประเทศที่เกี่ยวข้องเท่าที่ควร เป็นเรื่องไปทำงานเหมือนตำรวจซึ่งไม่ถูกต้อง
เพราะองค์กรสหประชาติเป็นองค์กรพหุภาคีที่ต้องทำงานในลักษณะพาร์ทเนอร์ชิพกับประเทศที่เกี่ยวข้อง
ผมก็เลยต้องต่อว่าเรื่องของการทำงานร่วมกับประเทศต่าง ๆ
แน่นอนว่าสิ่งที่นายกฯ
กล่าวนั้นหมายถึง
ความไม่พอใจต่อการทำงานของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR)
ที่ได้ตรวจสอบ 131
คนไทยที่หลบหนีข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซีย ว่าเป็นผู้ลี้ภัยหรือไม่
โดยไม่ได้ติดต่อกับรัฐบาลไทยก่อน
ซึ่งทางฝั่งไทยเองระบุว่ามาจากการสร้างสถานการณ์จากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ โดยดึง
UNHCR มาเป็นเครื่องมือ
ผมจะไม่ตัดสินคำกล่าวของท่านนายกฯ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่อยากตั้งคำถามว่า
สหประชาชาติมีสิทธิที่จะกระทำเช่นนั้นหรือไม่?
เพราะตามบทบาทหน้าที่แล้วหน่วยงาน UNHCR
นั้นรับผิดชอบในการเข้าไปดูแลผู้ลี้ภัย
เช่นเดียวกับที่เคยปฏิบัติมาแล้วในหลายพื้นที่ทั่วโลก ทั้งนี้
เพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัย
จึงไม่จำเป็นต้องผ่านรัฐบาลของประเทศผู้ลี้ภัยก่อน
การเข้าไปสัมภาษณ์ 131
คนไทยที่หลบหนีข้ามไปมาเลเซียของ UNHCR
เป็นการทำงานด้านการรวบรวมข้อมูลของผู้อพยพลี้ภัย เป็นข้อมูลภูมิหลัง
และความต้องการของผู้ลี้ภัย เพื่อต้องการที่จะปกป้องสิทธิมนุษยชนของผู้ลี้ภัย
และความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ลี้ภัย หากผู้หลบหนีทั้ง
131
คนเป็นผู้ลี้ภัยที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำที่รุนแรงของทหารไทยจริง
และไม่ต้องการอยู่ในพื้นที่เดิม การช่วยเหลือในขั้นต่อมาของ
UNHCR
คือ
การหาที่พักชั่วคราวให้ การส่งผู้ลี้ภัยไปยังประเทศที่สาม หรือพยายามส่งกลับประเทศ
ซึ่งเป็นความช่วยเหลือตามปกติที่ทำอยู่ทั่วโลกตามบทบาทหน้าที่ของ
UNHCR
อีกทั้งการทำงานของ UNHCR
จะอยู่ภายใต้การร่วมมือกับรัฐบาลในประเทศผู้ลี้ภัย องค์กรท้องถิ่น
องค์กรระดับนานาชาติ และองค์กรอิสระอื่น ๆ
ในกรณีของประเทศไทย จึงสามารถสรุปได้ว่า
UNHCR
ที่จะกระทำเช่นนั้นเป็นการทำตามบทบาทหน้าที่และเป็นการทำงานในลักษณะการมีส่วนร่วม
อย่างไรก็ตาม หาก UNHCR
เชื่อข้อมูลที่ได้เข้าไปสัมภาษณ์คนไทยทั้ง
131
คนเพียงฝ่ายเดียว ย่อมถือว่าเป็นการกระทำไม่ถูกต้องอยู่
ในด้านรัฐบาลหากเป็นความจริงที่ว่าการอพยพของคนไทย
131
คนนั้นเป็นการสร้างสถานการณ์โดยกลุ่มผู้ก่อการร้าย
รัฐบาลต้องยืนยันกันด้วยหลักฐาน ข้อเท็จจริง
เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้รับการปฏิบัติด้วยความยุติธรรมสูงสุด
การที่ท่านนายกฯกล่าวตำหนิการทำงานของ UN ในครั้งนี้
อาจเป็นการด่วนสรุปเกินไป อันเกิดจากความไม่พอใจเมื่อถูกแทรกแซงอำนาจ
ซึ่งคงเป็นเช่นเดียวกับในหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา