เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
ข้อเสนอประการหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
คือการลบชื่อลูกหนี้ที่มีหนี้เสียไม่เกิน
20,000
บาท
ออกจากบัญชีดำของเครดิตบูโร
เพื่อให้ลูกหนี้ที่ได้รับการนิรโทษกรรมเหล่านี้สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้
จากเดิมที่ไม่สามารถทำได้เพราะติดบัญชีดำ
ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจ
แนวคิดนี้แม้เป็นความตั้งใจที่ดีในการประคับประคองเศรษฐกิจให้เดินหน้าไปได้
และช่วยลูกหนี้รายย่อยให้มีโอกาสได้รับสินเชื่อในระบบ
แต่รัฐบาลควรประเมินอย่างรอบคอบในการนำแนวคิดนี้มาใช้
เนื่องจาก
เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อระบบสถาบันการเงิน
เพราะลูกหนี้ที่จะได้รับการนิโทษกรรมอาจมีทั้งลูกหนี้ที่ไม่ดี
คือ
ลูกหนี้ที่ขาดวินัยทางการเงิน
หรือตั้งใจไม่ชำระหนี้
และลูกหนี้ที่ดี
คือ
อาจจะเป็นลูกหนี้ที่ลืมจ่ายหนี้
หรือเป็นลูกหนี้ที่มีศักยภาพในการชำระหนี้ถ้าได้รับเงินกู้เพิ่ม
การลบรายชื่อลูกหนี้ในกลุ่มนี้ทั้งหมดออกจากบัญชีดำ
โดยไม่มีมาตรคัดกรองลูกหนี้
นับว่าเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน
เพราะลูกหนี้ไม่ดีจะทำให้การปล่อยกู้ของสถาบันการเงินมีความเสี่ยงมากขึ้น
และจะทำให้สถาบันการเงินมีภาระต้นทุนในการพิจารณาสินเชื่อมากขึ้น
ขาดประสิทธิผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
สมมติฐานของแนวคิดนี้
คือ
เมื่อลูกหนี้ถูกปลดออกจากบัญชีหนี้เสียแล้ว
ลูกหนี้เหล่านี้จะเป็นตัวแปรที่จะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยสถาบันการเงินจะยอมปล่อยเงินกู้ให้กับลูกหนี้ที่หลุดออกจากบัญชีดำ
และลูกหนี้ดังกล่าวจะสามารถทำนิติกรรมทางการเงิน
เช่น
ซื้อรถ
ซื้อบ้าน
ลงทุน
เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม
ในทางปฏิบัติอาจไม่เป็นตามสมติฐาน
เพราะแม้ลูกหนี้จะไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีดำแล้ว
แต่ข้อมูลประวัติการทำธุรกรรมทางการเงินยังคงอยู่
และหนี้เดิมยังคงค้างอยู่
เมื่อไปขอสินเชื่อ
สถาบันการเงินจึงยังสามารถตรวจสอบข้อมูลจากเครดิตบูโรได้
ซึ่งเป็นไปได้ยากที่สถาบันการเงินจะยอมปล่อยสินเชื่อ
หากพบข้อมูลว่าเคยมีประวัติผิดนัดชำระหนี้จนกลายเป็นหนี้เสีย
นอกจากนี้
ลูกหนี้ที่มียอดหนี้ต่ำกว่า
20,000
บาท
แต่กลับไม่สามารถชำระได้
ไม่น่าจะเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อบ้านและรถยนต์
ผมเชื่อว่า
ลูกหนี้ที่ดีแต่ผิดนัดชำระหนี้ด้วยเหตุของการลืมชำระหนี้
ย่อมสามารถและพยายามปลดตัวเองออกจากบัญชีดำอยู่แล้ว
โดยไม่ต้องรอมาตรการของรัฐบาล
เพื่อให้ตัวเองสามารถรักษาเครดิตที่ดีเอาไว้ได้
และทำให้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินต่อไปได้
ส่วนลูกหนี้ที่มีศักยภาพ
ในการคืนหนี้หากได้รับเงินกู้เพิ่มเติมคงจะมีจำนวนไม่มากนัก
เพราะรัฐบาลที่ผ่านมามีโครงการปรับโครงสร้างหนี้ไปแล้วหลายครั้ง
ยิ่งไปกว่านั้น
หากเขาเป็นลูกหนี้ที่ดี
ย่อมพยายามติดต่อสถาบันการเงินเพื่อเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ด้วยตนเองอยู่แล้ว
ผมเสนอว่า
การใช้แนวทางดังกล่าวนี้ไม่ควรจะเป็นการล้างบัญชีลูกหนี้เสียแบบปูพรม
แต่น่าจะเป็นการขอความร่วมมือไปทางสถาบันการเงิน
เพื่อพิจารณาสินเชื่อให้แก่ลูกหนี้บัญชีดำเป็นราย
ๆ ไป
โดยพิจารณาจากประวัติการชำระหนี้
รวมทั้งพิจารณากระแสรายได้
และศักยภาพในการชำระหนี้ในปัจจุบัน
ซึ่งเป็นแนวทางที่ปลอดภัยกว่า
การปล่อยเสือทั้งฝูงเข้าป่าไป
|