เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
แม้สงกรานต์ปีนี้จะมีจำนวนผู้เสียชีวิตลดลงกว่าปีที่ผ่านมา
แต่ภาครัฐยังคงต้องหาแนวทางและมาตรการลดความสูญเสียให้ได้มากที่สุด
เนื่องจาก
ปัญหาความไม่ปลอดภัยยังคงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
นอกเหนือจากอุบัติเหตุจากรถยนต์สาธารณะ
หรือภัยที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์แล้วยังมีภัยธรรมชาติ
เช่น
น้ำท่วม,
น้ำป่า,
แผ่นดินไหว
เป็นต้น
แต่ว่าการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมายังคงขาดความต่อเนื่อง
แก้เฉพาะจุดที่เกิดปัญหา
ขาดการดูภาพรวมทั้งหมด
รวมทั้งขาดระบบป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
การป้องกันภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้น
แม้จะต้องใช้เงินลงทุนมาก
แต่นับว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลที่จะเกิดขึ้น
เช่น
ที่ผ่านมา
อุบัติเหตุจากรถโดยสารขนาดใหญ่
มีมูลค่าความเสียหายประมาณ
7-8
พันล้านบาทต่อปี
และความเสียหายจากอุบัติเหตุทั้งหมดคิดเป็น
1.7
แสนล้านบาทต่อปี
เหตุการณ์ระเบิด
8
จุด
ในกรุงเทพมหานครช่วงท้ายปี
ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวลดลงกว่า
2.9
แสนล้านบาท
เป็นต้น
ดังนั้นผมจึงเสนอว่า
ภาครัฐควรดำเนินนโยบายความปลอดภัยแห่งชาติ
เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชน
โดยมีแนวทางดังต่อไปนี้
สร้างความปลอดภัยทุกรูปแบบ
ให้ครอบคลุมภัยอันตายทุกรูปแบบ
ทั้งภัยธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์
และครอบคลุมตั้งแต่ความปลอดภัยในครัวเรือน
ในโรงเรียน
ในการเดินทาง
ในการทำงาน
ในการพักผ่อนหย่อนใจและท่องเที่ยว
ฯลฯ
เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย
ทุกกิจกรรม
ทุกเวลา
และทุกสถานที่
อีกทั้งควรศึกษาและวางแผนให้ครอบคลุมภัยหรือเหตุร้ายที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน
แต่อาจเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นแล้วในประเทศอื่น
เช่น
โรคระบาดบางชนิด
ระเบิดพลีชีพ
หรือแม้แต่การสังหารหมู่ในมหาวิทยาลัย
เป็นต้น
ซึ่งเพียงแค่การศึกษาและวางแผนเพื่อเตรียมการรองรับล่วงหน้าให้ครอบคลุมเหตุการณ์เหล่านี้นั้น
สามารถทำได้โดยไม่ก่อให้เกิดต้นทุนแก่ประเทศมากเกินไปนัก
แต่จะเป็นประโยชน์กับประเทศในระยะยาวมากกว่า
สร้างความปลอดภัยตลอดทั้งกระบวนการ
เพื่อให้ทราบผู้ที่ต้องรับผิดชอบชัดเจน
ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการได้อย่างเป็นระบบ
ตั้งแต่การป้องกันปัญหาความไม่ปลอดภัย
การสร้างหลักประกันความเสี่ยงจากความไม่ปลอดภัย
การจัดระบบแก้ไขเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วเพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด
การตรวจสอบหรือสอบสวนสาเหตุและที่มาของความไม่ปลอดภัย
การลงโทษและจัดเก็บต้นทุนจากผู้ที่สร้างความไม่ปลอดภัย
การชดเชยและเยียวยาแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัย
การฟื้นฟูพื้นที่ภัยพิบัติ
และการประเมินผลและปรับปรุงประบวนการสร้างความปลอดภัยแห่งชาติ
เป็นต้น
สร้างความปลอดภัยแบบครบวงจร
โดยการดำเนินการทั้งด้านคน
ระบบ
และบริบท
เช่น
การป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน
ในด้านคน
ควรกำหนดมาตรฐานคนขับยวดยานพาหนะ
สร้างวินัยการจราจร
และสร้างค่านิยมการขับขี่อย่างปลอดภัย
ด้านระบบ
ควรกำหนดมาตรฐานรถยนต์
โดยกำหนดอายุการใช้งานของรถ
และมีการตรวจสภาพรถยนต์
เครื่องยนต์
รวมทั้งทางขึ้นลง
ให้อยู่ในสภาพปลอดภัยอยู่เสมอ
ส่วนด้านบริบท
ควรพัฒนามาตรฐานถนน
และมีการบำรุงรักษาถนนให้อยู่ในสภาพที่ดีในทุกเส้นทาง
เป็นต้น
ซึ่งการทำอย่างครบวงจรจะทำให้เกิดความประหยัดจากขนาด
เพราะ
การประสานกันทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรร่วมกัน
ลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงได้
รัฐควรเอาใจใส่ในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
เนื่องจากเป็นความรับผิดชอบที่พึงกระทำแก่ประชาชน
ดังนั้นการมีนโยบายความปลอดภัยแห่งชาติ
จึงเป็นการแสดงความเอาใจใส่
ที่เป็นรูปธรรม
โดยคาดหวังว่า
เราจะเห็นสังคมไทยเป็นสังคมที่ปลอดภัย
สามารถใช้ชีวิตในสังคมนี้ได้อย่างไม่ต้องวิตกกังวล
|