เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
จากการที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย
(ทปอ.)
มีมติให้ปรับเปลี่ยนองค์ประกอบการรับนิสิตนักศึกษาในระบบกลางหรือแอดมิชชันประจำปีการศึกษา
2553
โดยยกเลิกการใช้คะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาขั้นสูง
หรือ
ANET
และผลการเรียนเฉลี่ยรายกลุ่มสาระการเรียนรู้
หรือ
GPA
และหันมาใช้องค์ประกอบ
3 ส่วน
ได้แก่
ผลการเรียนเฉลี่ยสะสมในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
หรือ
GPAX
คะแนนทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ
หรือ
ONET
และผลการทดสอบวัดความถนัด
(Aptitude
Test)
โดยให้เหตุผลในการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์ครั้งนี้ว่า
เกณฑ์การคิดคะแนนแบบเดิมมีความซ้ำซ้อน
อยากให้ผู้เรียนสนใจการเรียนในวิชาอื่น
ไม่อยากให้เด็กเรียนกวดวิชา
และสอดคล้องกับการวัดผลของโรงเรียน
อย่างไรก็ตามเกณฑ์ที่จะประกาศใช้ในปีการศึกษา
2553
นั้นยังต้องมีการหารือกันอีกครั้ง
เนื่องจากยังมีผู้ไม่เห็นด้วยอีกมาก
โดยในเรื่องดังกล่าวผมยังคงค่อนข้างเป็นห่วงอยู่ในหลายประเด็น
ดังนี้
การยกเลิก
GPA =
ยกเลิกการวัดความสามารถในรายวิชา
เพราะองค์ประกอบ
GPA
มีนัยสำคัญที่ช่วยสะท้อนความสามารถที่แท้จริงของผู้เรียนในบางวิชา
ซึ่งทำให้ผู้เรียนแต่ละคนรู้ว่าควรเลือกเรียนคณะอะไร
การยกเลิก
GPA
จึงอาจมีผลทำให้ผู้เรียนละเลยที่จะประเมินความสามารถของตนเอง
อีกทั้งเกณฑ์ใหม่นี้
ไม่ได้แก้ปัญหาเกรดเฟ้อ
เนื่องจาก
GPA
เป็นส่วนหนึ่งของ
GPAX
จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการปล่อยเกรดเฟ้อที่
GPA
และส่งผลมาสู่
GPAX
ได้เช่นเดียวกัน
การให้ความสำคัญกับผลการเรียนในห้องมากเกินไป
เห็นได้จากเหตุผลการของการยกเลิก
GPA
และหันมาใช้
GPAX
เพื่อต้องการให้ผู้เรียนเรียนในชั้นเรียนมากขึ้น
และองค์ประกอบอื่นกลับไม่ได้สนับสนุนให้ผู้เรียนพัฒนาศักยภาพด้านอื่น
นอกจากความสามารถด้านวิชาการ
ผมเห็นว่า
หาก ทปอ.
ยังคงใช้องค์ประกอบในลักษณะนี้อยู่
ปัญหาจะวนกลับมาที่เดิม
คือ
เด็กไม่รู้จักตัวเอง
ไม่พัฒนาทักษะความสามารถด้านอื่น
แต่จะมุ่งทำเกรดให้สูงที่สุด
และมีแนวโน้มที่โรงเรียนบางแห่งจะปล่อยเกรดเฟ้อมากขึ้น
การกำหนดองค์ประกอบของการคัดเลือกนักศึกษาเข้ามหาวิทยาลัยในระบบแอดมิชชัน
ควรเป็นองค์ประกอบที่มีส่วนกระตุ้นให้โรงเรียนพัฒนาผู้เรียน
โดยองค์ประกอบที่ผมคิดว่าควรเพิ่มเติม
คือ
การทำกิจกรรมนอกห้องเรียน
การคัดเลือกผู้เรียนเข้าศึกษาต่อควรพิจารณาด้วยว่า
ในระหว่างที่เรียนนั้น
ผู้เรียนได้ร่วมทำกิจกรรมอะไรมาบ้าง
ซึ่งผู้เรียนที่ต้องการเข้าศึกษาต่อ
จะต้องแสดงหลักฐานที่บ่งบอกถึงกิจกรรมที่ได้เข้าร่วมอย่างชัดเจน
และมหาวิทยาลัยอาจตรวจสอบกลับไปยังโรงเรียนได้
หากต้องการยืนยันว่าผู้เรียนทำกิจกรรมดังกล่าวจริงหรือไม่
การแสดงความตั้งใจในการศึกษาต่อ
ควรพิจารณาผู้เรียนที่มีความตั้งใจจริงในการศึกษาต่อในสาขานั้น
ๆ
อาจดำเนินการได้โดยให้แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนดคำถามบางประการไว้ในใบสมัคร
หรือในช่วงสอบสัมภาษณ์
ตามที่มหาวิทยาลัยเห็นว่ามีความเหมาะสมในการคัดเลือกนักศึกษา
คุณลักษณะด้านคุณธรรมจริยธรรม
ควรมีการพิจารณาประเด็นคุณธรรมจริยธรรมของผู้ที่ต้องการศึกษาต่อร่วมด้วย
เช่น
การนำเอาข้อมูลจากสมุดพกความดีเข้ามาประกอบการพิจารณา
โดยสร้างตัวชี้วัดด้านคุณธรรมให้ออกมาเป็นคะแนน
และกำหนดความเหมาะสมของการให้น้ำหนักคุณธรรมจริยธรรม
เพื่อกำหนดสัดส่วนระหว่างคะแนนของความดีกับความรู้ให้เหมาะสม
ผมเห็นด้วยกับการคัดเลือกนักศึกษาในระดับแอดมิชชัน
ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อมหาวิทยาลัยสามารถคัดเลือกนักศึกษาได้ตรงตามความสามารถจริงของผู้เรียนมากที่สุด
แต่ยังเป็นห่วงในส่วนขององค์ประกอบใหม่
ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาเดิม
นั่นคือโรงเรียนปล่อยเกรดเฟ้อ
ผู้เรียนมุ่งเรียนเพื่อทำเกรดจนลืมพัฒนาทักษะความสามารถและคุณธรรมจริยธรรม
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า
ข้อเสนอดังข้างต้นนี้
อาจจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยในการปรับปรับปรุงระบบแอดมิชชันให้ดีมากขึ้น
|