เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
ประเด็นการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า
90
วันก่อนวันรับสมัครรับเลือกตั้ง
นับเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่อยู่ในความสนใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เนื่องจากที่ผ่านมา
การกำหนดกติกาดังกล่าว
กลับส่งผลให้ผู้นำพรรคการเมืองบางพรรคใช้เงื่อนไขนี้เป็นอำนาจต่อรองกับ
ส.ส.ภายในพรรค
ให้ต้องทำตามมติและความเห็นของพรรคทุกอย่าง
โดยไม่ให้
ส.ส.คนใดออกนอกแถว
และขณะเดียวกัน
หาก ส.ส.จะย้ายพรรคก่อนมีการเลือกตั้ง
ส.ส.จะต้องรับความเสี่ยงจากการที่รัฐบาลอาจยุบสภา
เพราะกฎหมายระบุว่า
ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน
45
วัน
หรือหากรัฐบาลอยู่ครบวาระ
4
ปี
กฎหมายกำหนดว่าต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน
60
วัน
เท่ากับเป็นการพันธนาการ
ส.ส.ที่ไม่สามารถย้ายพรรคการเมืองได้
หากพิจารณาด้วยความเป็นธรรม
ผมเห็นว่า
ส.ส.ในฐานะตัวแทนประชาชนและในฐานะพลเมือง
ย่อมสมควรมีสิทธิเสรีภาพ
มีอิสระในการเลือกสังกัดพรรคการเมืองใดก็ได้ตามใจสมัคร
ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้
ส.ส.
ขาดเสรีภาพในการทำหน้าที่เป็นตัวแทนและรักษาผลประโยชน์ของประชาชน
เพราะต้องอยู่ภายใต้การนำของพรรคและรักษาผลประโยชน์ของพรรค
แทนที่ประชาชนจะเป็นผู้กำหนดอนาคตทางการเมืองของ
ส.ส.
อย่างไรก็ตาม
ขณะเดียวกัน
พรรคการเมือง
ย่อมคาดหวังให้นักการเมืองในสังกัด
ร่วมเป็นสมาชิกพรรคด้วยอุดมการณ์และมีความเป็นเอกภาพเดียวกัน
ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
สะท้อนออกมาด้วยการเข้าร่วมสังกัดพรรคเป็นระยะเวลานานพอสมควร
นั่นหมายความว่า
ต้องมีความสมดุล
ระหว่าง
การให้อิสระกับนักการเมืองในการย้ายพรรค
กับ
ระยะเวลาการสังกัดพรรค
ทางออกที่คิดว่าน่าจะเหมาะสม
จึงเสนอว่า
ควรแก้ไข
ระยะเวลาสังกัดพรรค
กับ
ระยะเวลาที่ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งให้สอดคล้องกัน
ทั้งนี้
เพื่อเปิดโอกาสให้
ส.ส.สามารถย้ายพรรคและสังกัดในพรรคใหม่ได้ครบตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้
โดย ส.ส.
อาจสังกัดพรรคการเมือง
ไม่น้อยกว่า
45 วัน
หรือ 60
วัน
หากมีการยุบสภา
หรือรัฐบาลอยู่ครบวาระ
4 ปี
แล้วแต่กรณี
เพื่อเปิดทางให้นักการเมืองสามารถมีเวลาพอที่จะย้ายพรรคได้
และมีเวลานานพอในการปรับตัวให้เข้ากับพรรคใหม่ที่ย้ายเข้าไปสังกัด
หากจะไม่ให้สังกัดพรรคก่อนสมัครเลย
อาจมีปัญหา
อาทิ ส.ส.
ขายตัวย้ายพรรคไปมา
และหากรายชื่อผู้สมัครไม่นิ่ง
ย่อมแสดงถึงความไม่พร้อมในการจัดตั้งรัฐบาลหากได้รับเลือกเป็นเสียงข้างมาก
เพราะพรรคไม่สามารถคุม
ส.ส.
ได้
จึงจำเป็นต้องมีการกำหนดคุณสมบัติในการเป็นผู้สมัคร
ส.ส.
ต้องสังกัดพรรคไม่น้อยกว่า
45
วัน
ก่อนถึงวันสมัคร
ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม
ประชาชนเป็นผู้เลือกนักการเมืองเข้าไปเป็นตัวแทนของพวกเขาในสภาฯ
ดังนั้น
จึงไม่ควรให้บุคคลเหล่านี้ต้องติดกับดักทางการเมือง
แต่ควรมีเสรีภาพในการกำหนดอนาคตของตนเองในการเลือกสังกัดพรรค
แต่ขณะเดียวกัน
นักการเมืองย่อมต้องแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนด้วยจริงใจ
มิใช่ลื่นไหลไปตามกระแสทุนของเจ้าของพรรคการเมือง
ดังนั้น
แม้จะปลดล็อก
90
วันออกไป
ขณะเดียวกันก็ต้องแก้ปัญหาอื่น
ๆ
ไปพร้อม
ๆ
กันด้วย
เพื่อให้มั่นใจว่า
นักการเมืองที่เข้ามาเป็นตัวแทนประชาชนนั้น
จะมิใช่กลุ่มธุรกิจการเมือง
แต่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้
“ทรงเกียรติ”
อย่างแท้จริง
|