Go www.kriengsak.com

ประวัติ

ครอบครัว

งานวิชาการ

กิจกรรม

Press

Contact us

ค้นหา

 

ขอคิดอย่างสร้างสรรค์


ส.ส. 1 ใน 4 ยื่นอภิปรายนายกฯ ได้
Engaging in debate with the Prime Minister :
One fouth of all MPs should have their way

 
 

25 มีนาคม 2550

เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก                                   

                หากจะกล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 อีกประการหนึ่ง คือ เรื่องการตรวจสอบการทำงานของคณะรัฐบาล ถึงแม้ว่ารัฐธรรมนูญจะเปิดช่องให้มีการตรวจสอบนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ด้วยสัดส่วนที่กำหนดไว้ สำหรับนายกรัฐมนตรีจะต้องมีสัดส่วน 2 ใน 5 ของส.ส. ในสภา ฯ และส่วนรัฐมนตรีสัดส่วน 1 ใน 5 ของส.ส.ในสภา ฯ แต่รัฐบาลที่ผ่านมากลับได้ชื่อว่าเป็น รัฐบาลที่มีความเข้มแข็ง เนื่องจากมีสัดส่วนจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนที่มาจากพรรคตนเองมากถึง 370 คนจาก ส.ส. 500 คน ฝ่ายค้านจึงไม่สามารถตรวจสอบการทำงานของหัวหน้าคณะรัฐบาลได้ ตามกระบวนการรัฐธรรมนูญ โดยการยื่นขอเปิดอภิปรายได้

                ด้วยเหตุนี้ จึงค่อนข้างแน่นอนว่า อาจมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยลดสัดส่วนเพื่อ ส.. จะยื่นอภิปรายนายกฯ ได้ง่ายขึ้น

                ในเรื่องดังกล่าว หากพิจารณาถึงข้อเสนอสัดส่วนที่เหมาะสม ผมเสนอว่า ควรแก้ไขสัดส่วนให้ ส.. จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดเผด็จการรัฐสภาเหมือนเช่นเดิม

                การกำหนดสัดส่วนใหม่ เป็น 1 ใน 4 ของจำนวน ส.. ที่มีอยู่ นอกจากจะทำให้ ส.. ทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหารแทนประชาชนได้ง่ายขึ้นแล้ว ในขณะเดียวกันเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเกินไปจนทำให้ฝ่ายบริหารไม่มีเสถียรภาพ นายกฯ ไม่สามารถบริหารประเทศได้

                ส่วนการอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลนั้น ผมเห็นว่า สัดส่วนเดิมมีความเหมาะสมแล้ว โดยให้ ส..จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของสมาชิกทั้งหมด เข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลได้

                หากจำลองสัดส่วนจากจำนวน ส..เดิม 500 คน ตามรัฐธรรมนูญ 2540 การขอยื่นอภิปรายนายกฯ ในสัดส่วนใหม่คือ 1 ใน 4 ของจำนวน ส.. นั้นจะต้องมี ส..จำนวน 125 คน  และหากต้องการยื่นอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลจะต้องมี ส.. เข้าชื่อรวมกันไม่ต่ำกว่า 100 คน และหากจำนวน ส.. ใหม่ที่คาดว่าจะกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ 2550 จำนวน 400 คน การยื่นอภิปรายนายกฯ จะต้องมี ส.. เข้าชื่อรวมกันไม่ต่ำกว่า 100 คน และอภิปรายรัฐมนตรีไม่ต่ำกว่า 80 คน  ถือได้ว่าเป็นสัดส่วนที่มีความเป็นไปได้ในการขอยื่นตรวจสอบรัฐบาลจากฝ่ายค้าน

                ขณะเดียวกัน เสนอว่า ควรร่างกฎหมายให้มีการเปิดช่องในการตรวจสอบ ในกรณีที่ ส.. ฝ่ายค้านมีจำนวนไม่ถึงเกณฑ์ที่จะเข้าชื่อขอยื่นอภิปรายรัฐมนตรีได้ ให้ส..ฝ่ายค้านทั้งหมดสามารถเข้าชื่อรวมกันเพื่อขออภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีได้ แต่ควรมีการกำหนดเงื่อนเวลาการขอเปิดอภิปรายทั่วไป โดยให้รัฐบาลบริหารงานไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐบาลสามารถบริหารงานอย่างเต็มที่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

                แม้จะมีการถกเถียงว่า ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ภายหลังจากที่มีการอภิปราย ไม่เคยมีการถอดถอนออกจากตำแหน่งได้จริง ๆ หากแต่ผมเห็นว่า การยื่นอภิปรายดังกล่าวมีประโยชน์ต่อประชาชน ในแง่ของการนำเสนอมุมมองอีกด้านจากฝ่ายค้านต่อการบริหารงานของรัฐบาล ทำให้ประชาชนได้พิจารณาถึงความชอบธรรมทางการเมืองของรัฐบาลในเรื่องนั้น ๆ

                การทำให้เกิดการตรวจสอบถ่วงดุลในรัฐสภาง่ายขึ้นเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาล แต่สิ่งสำคัญคือ การส่งเสริมให้การเมืองภาคประชาชนมีความเข้มแข็ง เพื่อทำให้เกิดการตรวจสอบอย่างมีประสิทธิภาพ จากเจ้าของอำนาจอย่างแท้จริงโดยปราศจากการครอบงำทางการเมือง

 

-------------------------------