Go www.kriengsak.com

ประวัติ

ครอบครัว

งานวิชาการ

กิจกรรม

Press

Contact us

ค้นหา

 

ขอคิดอย่างสร้างสรรค์


รมต . ไม่เป็น ส . ส . ชั่วคราว
Ministrers are not Temporary MPs
 

11 มีนาคม 2550

เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก                                   

             ปัญหาหนึ่งที่เกิดจากการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ได้แก่ การให้ ส . ส . ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ต้องพ้นจากตำแหน่ง ทำให้เกิดปัญหาเมื่อนายกรัฐมนตรีปรับคณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่ถูกปรับเปลี่ยน ไม่ได้ ดำรงตำแหน่งต่อไป ย่อมกลายเป็นเหมือน
ผู้ที่เว้นว่างทางการเมืองไปโดยปริยาย
             ยิ่งหาก ส . ส . ที่เลื่อนไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีนั้นมาจาก ส . ส . เขต ย่อมทำให้เขตนั้นต้องมีการ เลือกตั้งใหม่ ต้องเสียงบประมาณในการเลือกตั้ง และต้องเสียเงินเพื่อหาเสียงของผู้สมัคร ๆ ด้วย
             หากพิจารณาตามหลักการการเป็นตัวแทนประชาชนของ ส.ส.ประชาชนเป็นผู้เลือกผู้แทนให้มาทำ หน้าที่แทนตน และควรดำรงตำแหน่งจนครบวาระการเลือกตั้ง ไม่ควรพ้นสภาพ ส.ส.ได้อย่างง่าย ๆ โดยไม่มีเหตุอันสมควร ได้รับการถูกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี ได้รับการยอมรับจากประชาชน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง
             ในมุมหนึ่ง ส.ส.จึงไม่ควรที่จะพ้นจากตำแหน่งอย่างไม่สมควร แม้จะพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว ย่อมมิใช่เรื่องเสียหายหากจะให้กลับมาทำหน้าที่ ส.ส. ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ
             ดังนั้น ทางออกของปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้สมดุลในภาคปฏิบัติและสอดคล้องกับหลักการจึงเสนอว่า ส.ส.ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องพ้นจากการเป็น ส.ส.อย่างถาวร แต่จะถูก “ จำกัดอำนาจ ” โดยไม่มีสิทธิหน้าที่ของ ส . ส . ตลอดระยะเวลาของการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ยังคงมีฐานะเป็น ส.ส.อยู่ ตามกฎหมาย เมื่อมีการปรับคณะรัฐมนตรีและเป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่งก็สามารถกลับเข้ามาทำหน้าที่ ส . ส . เช่นเดิมได้
 
            ขณะเดียวกัน หากเป็นไปในแนวทางนี้ เสนอว่า ไม่จำเป็นต้องมีการเพิ่มจำนวน ส.ส.เพื่อทดแทน ส.ส.ที่ต้องดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีให้ครบจำนวน แต่ให้คงไว้ในสภาพเช่นเดิม เนื่องจากเห็นว่า ไม่มีความจำเป็นจำนวน ส.ส.ที่มีอยู่ยังสามารถทำหน้าที่ได้ อีกทั้งเป็นการตัดปัญหาความยุ่งยากและการเสียงบประมาณเพื่อเลือกตั้งใหม่
             ถึงกระนั้น อาจมีการเกรงว่า การทำเช่นนี้จะทำให้เสียงของฝ่ายรัฐบาลลดน้อยลง เพราะต้องเป็น รัฐมนตรีถึง 35 คน หากไม่มีการเชิญคนนอกเลย นั่นหมายความว่า ฝ่ายรัฐบาลจะเสีย ส . ส . ที่สนับสนุนไปถึง 35 เสียง ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลขาดเสถียรภาพในการบริหารประเทศได้ ยิ่งหากเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค มี โอกาสขาดความเป็นเอกภาพได้ง่าย การมีเสียงน้อยลงยิ่งทำให้โอกาสที่เสียงโหวตแพ้ฝ่ายค้านมีมากขึ้น เมื่อต้องลงมติในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จนอาจเป็นเหตุให้ต้องมีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่
             ข้อกังวลดังกล่าวอาจไม่เป็นเรื่องใหญ่ ทั้งนี้ หากพิจารณาในภาคปฏิบัติจริง เมื่อฝ่ายรัฐบาลทราบ ข้อจำกัดตามกฎหมายที่เกิดขึ้น เช่นนี้ ย่อมแสวงหาวิธีที่จะรวมกลุ่มเพื่อให้ได้เสียงฝ่ายรัฐบาลที่มีจำนวนมาก พอจนมั่นใจว่าฝ่ายตนนั้นมีเสถียรภาพ แม้ว่าจะต้องเสียส.ส.จำนวนหนึ่งไปชั่วคราวเพื่อดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรี เพราะในฐานะฝ่ายรัฐบาลย่อมต้องมีหลักประกันความมั่นคงแห่งนิติฐานะ
โอกาสที่เสียง ฝ่ายรัฐบาลจะน้อยจนขาดเสถียรภาพ ในความเป็นจริงมีความเป็นไปได้น้อย
             ในประเด็นนี้ จึงอยากฝากให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยคำนึง อย่างสมดุล ทั้งในเรื่องของการที่ ส.ส.เป็นตัวแทนของประชาชน จึงไม่ควรพ้นจากตำแหน่งไปอย่างไม่ เหมาะสม ขณะเดียวกัน คณะรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายบริหารย่อมไม่เหมาะสมที่จะทำหน้าที่ ส . ส . ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งทางออกจะเป็นเช่นไร จะเหมาะสมหรือเปิดช่องโหว่ใดอีกหรือไม่คงเป็นเรื่องที่ต้องร่วมกันคิดพิจารณาอย่างรอบคอบต่อไป
 

-------------------------------