Go www.kriengsak.com

ประวัติ

ครอบครัว

งานวิชาการ

กิจกรรม

Press

Contact us

ค้นหา

 

ขอคิดอย่างสร้างสรรค์


ซื้อดาวเทียมไทยคมอย่างไรให้
Win-win
How to Buy the Thaicom Sattlelite by a win-win approach
 

6 มีนาคม 2550

เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก                                   

              ประเด็นเกี่ยวกับการซื้อดาวเทียมไทยคมคืน มีข้อถกเถียงที่หลากหลาย อาทิ การซื้อคืนดาวเทียมคืนมาจะคุ้มค่าต่อเงินที่เสียไปหรือไม่ และจำเป็นหรือไม่ว่าการได้ดาวเทียมไทยคมกลับมาเป็นสมบัติของชาติ จะต้องใช้วิธีการซื้อคืนจากเทมาเซกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ข้อถกเถียงเหล่านี้ เป็นโจทย์สำคัญที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องนำไปพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนจะตัดสินใจดำเนินการ โดยเฉพาะแนวทางการซื้อคืนดาวเทียมไทยคมจากเทมาเซก ประเด็นสำคัญ คือ ราคาในการซื้อคืนควรเป็นเท่าไร และจะมีต่อรองราคาอย่างไรเพื่อจะทำให้ทั้งฝ่ายไทยและสิงคโปร์ได้ประโยชน์

ลักษณะตลาดซื้อขายดาวเทียมไทยคมเป็นตลาดที่มีการผูกขาดทั้งด้านผู้ซื้อและด้านผู้ขาย เพราะมีผู้ขายเพียงรายเดียวและมีผู้ซื้อเพียงรายเดียว ดังนั้นการกำหนดราคาซื้อขายจึงขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายด้วย

ในตลาดลักษณะเช่นนี้ ผู้ขายจะกำหนดราคาต่ำที่สุดที่ตนเองสามารถยอมรับได้ โดยไม่บอกให้ผู้ซื้อทราบราคาดังกล่าว แต่จะพยายามต่อรองกับผู้ซื้อให้ได้ราคาสูงสุด ขณะที่ผู้ซื้อจะกำหนดราคาสูงสุดที่ตนเองสามารถยอมรับได้ โดยไม่บอกให้ผู้ขายทราบราคาดังกล่าว แต่จะพยายามต่อรองให้ได้ราคาต่ำสุด ทำให้ราคาที่มีการซื้อขายจริงจะอยู่ในระดับที่ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจ หรือได้รับประโยชน์ร่วมกัน

แต่สถานการณ์ของการซื้อขายดาวเทียมไทยคมในเวลานี้ คือ เทมาเซกไม่ได้แสดงความต้องการที่จะขายดาวเทียม แต่กลับมีการแสดงความต้องการซื้อคืนดาวเทียมจากฝ่ายไทย สถานการณ์เช่นนี้เป็นการก้าวพลาดไปหนึ่งก้าวของไทย เพราะการเปิดเผยท่าทีว่า ประเทศไทยต้องการซื้อดาวเทียมไทยคมอย่างมาก ทำให้เทมาเซกกลายเป็นผู้ถือไพ่ที่เหนือกว่า จึงแสดงความพยายามโก่งราคาดาวเทียมให้สูงขึ้นกว่าราคาที่ควรจะเป็นในสถานการณ์ปกติ

อันที่จริง หากประเทศไทยต้องการซื้อดาวเทียมไทยคมคืน ควรจะสงวนท่าทีที่ต้องการซื้อดาวเทียมไทยคมเอาไว้ และดำเนินการศึกษาช่องทางต่าง ๆ ที่จะสามารถนำดาวเทียมไทยคมกลับมาเป็นของคนไทยอย่างรอบคอบ ซึ่งดีกว่าที่จะประกาศดัง ๆ ต่อสาธารณชน

หากรัฐบาลเห็นว่าควรใช้วิธีซื้อคืนดาวเทียมไทยคม ผมเสนอว่า ควรเปิดโต๊ะเจรจากับเทมาเซกในรูปแบบการเจรจาซื้อกิจการทั่วไป รัฐบาลไม่ควรบีบให้เทมาเซกต้องขายดาวเทียมในราคาถูก โดยเข้าทำการตรวจสอบมูลค่าทางบัญชีของกิจการดาวเทียมไทยคม และตกลงร่วมกันว่าราคาของดาวเทียมไทยคมที่รัฐบาลต้องการและเทมาเซกรับได้ควรจะเป็นเท่าไร ดีกว่าการทราบข้อมูลผ่านสื่อซึ่งจะทำให้ข้อมูล  บิดเบือน รวมทั้งฉวยโอกาสการเจรจานี้ร่วมกันหาทางออกของปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง อาทิ ปัญหาหุ้นไอทีวี ปัญหาการใช้นอมินีมาถือหุ้นแทนในชินคอร์ป เพื่อเรียกความสัมพันธ์อันดีกลับคืนมา

ผมอยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนหนึ่ง ในการดำเนินนโยบายอย่างรอบคอบ คิดอย่างรอบด้าน ประเมินผลได้ผลเสียที่เกิดขึ้นอย่างครบถ้วน เพราะทุกการตัดสินใจของผู้นำประเทศ ผู้ที่ได้รับผลกระทบคือประชาชนภายในประเทศนั่นเอง

 


-------------------------------