ในที่สุดเรียลลิตี้โชว์แก้จนของท่านนายกฯได้ฤกษ์ลงจอทางช่องยูบีซี
16
โดยมีหลายฝ่ายได้ออกมาแสดงความเห็นในมุมมองต่าง ๆ อาทิ
การถ่ายทอดสดการแก้ปัญหาความยากจนเป็นเพียงการจัดฉาก เป็นความพยายามเรียก
คะแนนนิยมทางการเมืองในภาวะขาลง เป็นเพียงการกลบข่าวทุจริต
เป็นการแทรกแซงบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
หรือเป็นแนวทางที่ไม่อาจทำให้การแก้ไขปัญหาความยากจนบรรลุผล ฯลฯ
ถึงแม้ว่ารัฐบาลให้เหตุผลว่าเป็นโครงการนำร่อง
เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบการปฏิบัติตาม
นโยบายแก้ปัญหาความยากจน แต่ผมเห็นว่าการทำเช่นนี้
ไม่สามารถถือได้ว่าเป็นโครงการนำร่องในการแก้ไขปัญหา ความยากจน เนื่องจาก
ประการแรก
พื้นที่โครงการนำร่องไม่ได้เป็นตัวแทนของพื้นที่ที่ยากจนทั้งประเทศ
รัฐบาลไม่ได้ทำการศึกษาอย่างชัดเจนว่า
ควรเลือกพื้นที่ใดในการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาความยากจน
แต่การเลือกอำเภออาจสามารถเพื่อที่จะจัดทำเรียลลิตี้โชว์ครั้งนี้
มีเหตุผลเพียงเพราะมีชื่อที่ดีและเพื่อเสริมดวงของท่านนายกฯเท่านั้น
ซึ่งผมคิดว่าเป็นการเลือกพื้นที่โครงการนำร่องที่ไม่ถูกต้อง
เพราะไม่ได้พิจารณาจากความเป็นตัวแทนของพื้นที่ยากจนทั่วประเทศ นอกจากนี้
ปัญหาความยากจนในแต่ละพื้นที่และแต่ละภูมิภาคของประเทศนั้น
มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
แบบอย่างการทำงานเพื่อแก้ไขความยากจนในอำเภออาจสามารถ
จึงอาจไม่สามารถนำไปใช้เป็นต้นแบบในพื้นที่อื่น ๆ ได้
ประการที่สอง
ระยะเวลาการดำเนินโครงการนำร่องไม่เพียงพอ
เพราะปัญหาความยากจนเป็นประเด็นที่มีความซับซ้อน
และต้องอาศัยระยะเวลาที่ยาวนานในการแก้ไขปัญหา แต่การที่นายกฯใช้เวลาเพียง 5
วันในการลงไปแสดงแบบอย่างของการแก้ไขปัญหา
จึงไม่สามารถให้คำยืนยันได้ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้จริง
หรือสามารถสอนให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถนำมาเป็นแบบอย่างให้กับจังหวัดอื่นในการปฏิบัติตามได้
เพราะการทำงานในระยะยาวย่อมมีความแตกต่างหรือมีพลวัตของปัญหามากกว่าการทำงานในระยะสั้น
ประการที่สาม
เงื่อนไขของการแก้ไขความยากจนแตกต่างจากการปฏิบัติงานจริง
เพราะการที่นายกฯลงไปทำโครงการนำร่องในครั้งนี้นั้น
มีกลไก บุคลากร
และทรัพยากรที่เพียบพร้อมมากกว่าการปฏิบัติงานจริงอย่างมหาศาล
เพราะนายกฯมีอำนาจสูงสุด สามารถสั่งการให้องคาพยพต่าง
ๆ ขับเคลื่อนได้ง่ายกว่าผู้ปฏิบัติงานจริงที่มีอำนาจจำกัด ขณะที่กลไก
ทรัพยากรและบุคลากรที่ติดตามมาเป็นทีมงานของท่านายกฯ
ล้วนเป็นผู้บริหารในระดับสูงของกระทรวงกรมกองต่าง ๆ
ประกอบกับการที่นายกฯลงมาปฏิบัติงานย่อมได้รับความร่วมมือจากประชาชนมากกว่า
ดังนั้นการขับเคลื่อนกระบวนการแก้ปัญหาความยากจนในโครงการนำร่องนี้จึงได้รับการผลักดันอย่างรวดเร็วมากกว่าการทำงานในพื้นที่จริง
ประการที่สี่
ขาดกระบวนการตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินงานในโครงการนำร่อง
การจัดทำโครงการนำร่องครั้งนี้
ผมยังไม่เห็นการเตรียมกลไกหรือระบบในการประเมินผลการปฏิบัติงานในโครงการนำร่องของท่านนายกฯและทีมงาน
เพื่อนำไปเป็นบทเรียนและแบบอย่างในการดำเนินการของโครงการอื่น ๆ
ผมไม่เชื่อว่าสิ่งที่นายกฯได้แสดงในรายการเรียลลิตี้โชว์แก้จนนั้นจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องทั้งหมด
เพราะนายกฯเองไม่เคยนำวิธีนี้ไปใช้ในการแก้ไขความยากจนในพื้นที่ใด
และไม่เคยมีผลยืนยันว่าการดำเนินการเช่นนี้จะประสบความสำเร็จได้จริง
ด้วยเหตุผลดังกล่าวทั้งหมด
ผมจึงเห็นว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นโครงการนำร่อง
และไม่สามารถจะนำไปแบบอย่างให้กับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ต่าง ๆ ได้ ผมจึงฟันธงว่าการทำเรียลลิตี้โชว์แก้จนในครั้งนี้เป็นเพียง
การจัดฉาก เท่านั้น