ลักษณะการแปรรูปรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลนี้ คือการทำให้เอกชนเข้ามาเป็นเจ้าของบางส่วน
โดยรัฐบาลยังคงอำนาจในการบริหาร
แต่แทนที่รัฐบาลจะใช้อำนาจการบริหารเพื่อประโยชน์ของประชาชน
กลับทำเพื่อเอื้อประโยชน์ให้เอกชนผู้ถือหุ้น
เนื่องจากรัฐบาลและเอกชนเป็นคนเดียวกัน จึงทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน
ลักษณะสำคัญของการแปรรูปฯ
ในรัฐบาลนี้ คือ ไม่ทำให้เกิดการแข่งขัน แต่ผูกขาดธุรกิจ
ซึ่งเป็นสไตล์การทำธุรกิจของนายกฯ
แท้ที่จริงแล้วเป็นวิธีการผูกขาดของภาคเอกชนที่ทำให้ดูเหมือนชอบธรรม
หากนโยบายยังดำเนินไปแบบนี้ต่อไป ประชาชนและภาคการผลิตจะต้องจ่ายค่าสาธารณูปโภคในราคาสูงขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า ประปา ขนส่งมวลชน ดังที่เป็นอยู่กับภาคพลังงาน เช่น
ก๊าซธรรมชาติซึ่งมีราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากการผูกขาดระบบท่อก๊าซของ ปตท.
จนทำให้ ปตท.มีกำไรมหาศาลในปีที่ผ่านมา
รัฐบาลได้เตรียมนำรัฐวิสาหกิจหลายแห่งเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์
โดยเฉพาะรัฐบาลวิสาหกิจที่เป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานและรัฐวิสาหกิจที่มีกำไร
เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์ ทางด่วน เป็นต้น โดยการพยายามเร่งจ่ายหนี้ที่คงค้าง
เพื่อลดภาระการชำระหนี้ของเอกชนที่จะเข้ามาถือหุ้น การโยกย้ายสินทรัพย์ของรัฐที่มีคุณภาพดีและมีศักยภาพในการสร้างรายได้เข้าไปสู่รัฐวิสาหกิจนั้น
ก่อนที่เข้าระดมทุนในตลาดหุ้น รวมทั้งการกำหนดอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำแก่ผู้ที่เข้ามาถือหุ้น
รัฐบาลมักจะอ้างเหตุผลในการดำเนินการที่ได้กล่าวข้างต้นนี้ว่า
เพื่อดึงดูดนักลงทุน และเพื่อให้ขายหุ้นได้ในราคาสูง แต่ในความเป็นจริงแล้ว
นักลงทุนรายใหญ่ที่ได้รับหุ้นรัฐวิสาหกิจที่เข้าไปกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
กลับเป็นเครือญาตินักการเมืองและกลุ่มธุรกิจที่เป็นพวกพ้องของนักการเมือง
ตลอดจนกองทุนจากต่างประเทศที่ไม่สามารถระบุชื่อนักลงทุนในกองทุนดังกล่าวได้
ซึ่งเป็นข้อสงสัยของประชาชนว่า อาจจะเป็นนอมินีของนักการเมืองใหญ่ในรัฐบาล
ส่วนข้ออ้างว่าเพื่อให้ขายได้ในราคาสูงนั้น
ไม่เป็นความจริง เพราะการกำหนดราคา
IPO
ของหุ้นรัฐวิสาหกิจที่ขายให้กับนักลงทุนและประชาชนในช่วงแรกนั้น
ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก
ทั้งนี้มีการศึกษาของนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ระบุว่า
มูลค่าการประเมินทรัพย์สินของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตต่ำกว่าความเป็นจริงมากถึง 10 เท่า
ดังนั้นราคาหุ้นที่ควรจะเป็นน่าจะสูงกว่าราคา IPO มาก
เมื่อเป็นเช่นนี้หมายความว่า
ผู้ที่ได้รับหุ้นรัฐวิสาหกิจจะฟันกำไรมหาศาลจากส่วนต่างของราคา IPO
และราคาที่แท้จริงของหุ้นรัฐวิสาหกิจ
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเท่านั้น
แต่สามารถสะท้อนพฤติกรรมแสวงหากำไรสูงสุดจากแปรรูปฯของได้อย่างชัดเจน
หากกระบวนการกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ประสบความสำเร็จในอนาคต
จะมีหลักประกันอย่างไรว่า
ผู้กำหนดนโยบายและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจจะดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยปราศจากพฤติกรรมแสวงหากำไรสูงสุด
สิ่งที่ผมเป็นกังวลมาก คือ
ประชาชนยังได้รับข้อมูลจากคำโฆษณาชวนเชื่อที่บิดเบือนว่า
เมื่อแปรรูปสาธารณูปโภคพื้นฐานแล้ว จะทำให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพ
เกิดการขยายศักยภาพในการปฏิบัติงาน กำไรที่ได้จะนำมาใช้ในการพัฒนาประเทศ
ซึ่งเป็นเพียงการสร้างภาพให้ประชาชนเห็นแต่สิ่งที่ดี
บิดเบือนความเข้าใจของประชาชน เพราะสิ่งเกิดขึ้นจริงวันนี้การแปรรูป ปตท.
ประชาชนถูกสูบเลือด แต่ตรงกันข้ามปตท.มีกำไรกว่าแสนล้าน
และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเมื่อรัฐวิสาหกิจหลายแห่งถูกแปรรูปไปแล้ว
เดาได้ไม่ยากว่า ประชาชนจะเป็นอย่างไร