เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
สมัชชาประชาชน
การเมืองบนฐานที่ประชาชนมีส่วนร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมทำ
ในการกำหนดทิศทางของประเทศไทย
เมื่อวันที่ 8 9
ต.ค. ที่ผ่านมา
พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดประชุม สมัชชาประชาชน
ที่เมืองทองธานี โดยมีตัวแทนประชาชนจากทุกภาคของประเทศทั้งเยาวชน
ผู้นำสตรี เกษตรกร นักวิชาการ นักธุรกิจ ผู้ใช้แรงงาน ลูกจ้าง พนักงานรัฐวิสาหกิจ
ข้าราชการ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้นำชุมชน ผู้ปฏิบัติงานเครือข่ายประชาชน
จำนวนประมาณ 3,200 คน เพื่อร่วมแสดงความคิดเห็น
ในการกำหนดทิศทาง เป้าหมาย และแนวทางในการพัฒนาประเทศในอนาคตข้างหน้า
โดยแนวทางการประชุม
จะเริ่มการประชุมโดยการจัดเป็นกลุ่มย่อย
400 กลุ่ม กลุ่มละ 8 คน
เพื่อระดมความความคิดเห็นเพื่อเสนอปัญหาในสถานการณ์ปัจจุบันและแนวทางแก้ไข
หลังจากนั้นในช่วงบ่ายได้มีการแบ่งกลุ่มใหม่ออกเป็น 100
กลุ่ม กลุ่มละ 32 คน ด้วยการรวม 4
กลุ่มในช่วงเช้าเป็น 1 กลุ่ม
เพื่อระดมสมองและนำเสนอผลงานของแต่ละกลุ่ม และสามารถสรุปเป็นประเด็น
7 หัวข้อหลักที่น่าสนใจคือ 1.
ปัญหาชายแดนใต้และความมั่นคง 2.หยุดคอร์รัปชัน สร้างสังคมธรรมาภิบาล
3.ปฏิรูปการเมืองไทยแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกระจายอำนาจ
5.ฝ่าวิกฤตสังคม ฟื้นจริยธรรม 6.พัฒนาเศรษฐกิจไทยสู่ทิศทางใหม่ในอนาคต
และ 7.ขจัดความยากจนจะก้าวพ้นได้อย่างไร
โดยทั้ง 7 หัวข้อดังกล่าวได้มีการประชุมแบบโต๊ะกลมในวันที่
9 ต.ค.
โดยประชาชนที่เข้าร่วมจะเลือกในหัวข้อที่ตนสนใจ พร้อมทั้งสามารถได้พูด
ได้แสดงความคิดเห็น ในเรื่องของสภาพปัญหา ตลอดจนมีข้อเสนอ แนวทางในการแก้ไขปัญหา
และหาทางออกในประเด็นดังกล่าว และมีการนำเสนอทั้ง 7
ประเด็นในเชิงสังเคราะห์ที่ห้องประชุมใหญ่ในช่วงบ่าย
ปรากฏการณ์ที่ประชาชนจากเกือบทุกหมู่เหล่า
ทุกภูมิภาค เข้ามาร่วมงานสมัชชาประชาชน
จะก่อให้มิติใหม่ทางด้านการเมืองและด้านการพัฒนาประเทศ
ที่ประชาชนจะไม่เพียงทำหน้าที่ด้านการเมืองเพียงไปใช้สิทธิเลือกตั้งทุก
4 ปีเท่านั้น
หรือรอรับการช่วยเหลือจากภาครัฐเท่านั้น แต่ลุกขึ้นมาทำหน้าที่ความเป็นพลเมืองของประเทศ
กล่าวอีกนัยหนึ่ง
กระบวนการสมัชชาประชาชนจะเป็นการส่งเสริมในระบอบประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม
ที่ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมคิด ร่วมแสดงคิดเห็น ร่วมทำ ร่วมกันแก้ปัญหา
ตลอดจนร่วมกันกำหนดทิศทางการพัฒนาของประเทศทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ สังคม
และการเมือง
การจัดสมัชชาประชาชนเมื่อวันที่
8 9 ต.ค.ที่ผ่านมา
จะเป็นจุดเริ่มต้นความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนกับพรรคการเมืองและสถาบันทางการเมืองต่าง
ๆ
จะทำให้สังคมไทยขับเคลื่อนไปในทิศทางการมีส่วนร่วมบนฐานที่ประชาชนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น
ซึ่งทุกพรรคการเมืองสามารถที่จะริเริ่มการจัดสมัชชาประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ
สมัชชาระดับอำเภอ ระดับเขต ระดับจังหวัด หรือระดับประเทศ
และรวมไปถึงการจัดสมัชชาอาชีพ สมัชชาการแก้ปัญหาบ้านเมือง ฯลฯ ซึ่งที่สุดแล้ว
เรื่องของสังคม เรื่องของประเทศ
จะไม่เป็นเพียงภาระหน้าที่ของนักการเมืองต่อไปเท่านั้น
แต่เป็นเรื่องที่ประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกหมู่อาชีพ
สามารถเข้ามามีส่วนกำหนดทิศทางของประเทศไทยในอนาคต
|