จากการที่นายเนวิน
ชิดชอบ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ได้เตรียมจัดทำแผนการปฏิรูประบบโครงสร้างสหกรณ์ทั่วประเทศ
โดยใช้แนวคิดระบบขายตรงเข้ามาใช้ในงานขายสินค้าเพื่อสร้างยอดการซื้อขายสินค้าสหกรณ์เพิ่มขึ้นนั้น
แนวทางนี้คงเป็นหนึ่งในหลายแนวทางของคุณเนวินในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เพื่อฟื้นฟูระบบสหกรณ์ในประเทศไทยให้กลับมีชีวิตและสามารถเป็นทางออกให้เกษตรกรไทยสามารถหลุดพ้นจากวัฎจักรความยากจนได้
อย่างไรก็ตาม
ผมตั้งข้อสังเกตว่าบ่อยครั้งที่แนวทางในการดำเนินงานของรัฐบาลมักจะมีความ
ขัดแย้งกันเอง
รวมถึงในเรื่องการปฏิรูประบบสหกรณ์นี้ด้วยเช่นกัน
ในด้านหนึ่ง
รัฐบาลประกาศแนวทางปฏิรูประบบสหกรณ์และส่งเสริมการรวมกลุ่มของประชาชนภาคการเกษตร
แต่ในอีกด้านรัฐบาลกลับดำเนินนโยบายที่มุ่งเน้นในระดับปัจเจกมากกว่าส่งเสริมการรวมกลุ่มของประชาชนในรูปแบบสหกรณ์
หรือสร้างรูปแบบขึ้นมาเพื่อแข่งขันกับระบบสหกรณ์
ไม่ว่าจะเป็นโครงการกองทุนหมู่บ้าน
หรือล่าสุดโครงการวัวล้านตัวหรือ
SPV
ที่รัฐบาลลงมาเล่นบทบาทเป็น
บริษัท
ด้วยตัวเอง
แทนการจัดตั้งระบบ
สหกรณ์การเกษตร
ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งและมีความเป็นเจ้าของร่วมกันมากกว่าการพึ่งรัฐหรือนายทุนแบบ
SPV
รัฐบาลจึงควรพิจารณาถึงจุดยืนของตนเองอีกครั้งว่าต้องการจะไปในทิศทางใด
เพื่อให้นโยบายหรือแนวทางการดำเนินงานต่าง
ๆ
ที่ออกมาเป็นไปอย่างสอดคล้องต่อกัน
โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสร้างให้คนไทยสามารถที่จะพึ่งพาตนเองได้เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไปในระยะยาว