เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
การหาเสียงของพรรคการเมืองย่อมมาคู่กับการเลือกตั้ง
และคงยากที่จะปฏิเสธว่า
พรรคไทยรักไทยในฐานะเป็นรัฐบาล
แม้จะเป็นรัฐบาลรักษาการก็ตามที
มีโอกาสหาเสียง
(ทางอ้อม)
ได้มากกว่าพรรคการเมืองอื่น
ในช่วงที่ผ่านมา
เราคงเห็นการทำงานของรักษาการนายกฯ
อาทิ
การลงพื้นที่ภาคอีสานและจะต่อด้วยภาคเหนือเพื่อตรวจราชการ
แม้รักษาการนายกฯ
จะพูดว่าไม่ได้ไปหาเสียง
แต่พฤติกรรมบางอย่าง
เช่น
การสัญญาว่าจะแจกโคให้กับเกษตรกร
การยืนยันโครงการแจกคอมพิวเตอร์
(laptop)
ให้เด็กประถมที่จะเกิดขึ้นในปี
2550
เป็นต้น
ย่อมเอื้อประโยชน์ให้พรรคไทยรักไทยในการเลือกตั้งมากกว่าพรรคอื่น
นอกจากนี้
การออกสื่อประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาล
ผ่านทางหน่วยงานของรัฐ
โดยใช้สื่อโทรทัศน์ที่รัฐคุมได้
เพื่อโฆษณาผลงานของหน่วยงานซึ่งสะท้อนความสำเร็จของนโยบาย
ภาพยนตร์โฆษณาที่นำเสนอตัวอย่างของผู้ได้รับการช่วยเหลือจากโครงการของรัฐบาล
สื่อเหล่านี้ย่อมเป็นการหาเสียงทางอ้อม
ซึ่งรัฐบาลสามารถฉวยโอกาสได้
โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงมารยาททางการเมือง
การใช้งบประมาณของรัฐเพื่อประชาสัมพันธ์ผลงาน
เพราะเป็นช่องว่างที่ไม่ผิดกฎหมาย
การกล่าวถึงมารยาททางการเมือง
ความไม่เหมาะสมในการทำงานที่เสมือนหนึ่งการหาเสียงของรัฐบาลรักษาการ
ย่อมไม่มีประโยชน์
ทางแก้ปัญหาในเวลานี้
สื่อมวลชนและภาคส่วนต่าง
ๆ
ควรช่วยกันนำเสนอความจริงอีกด้านหนึ่งเพื่อรักษาสมดุลและความเป็นกลางให้ประชาชนรับรู้
ยกตัวอย่างเช่น
ในขณะที่หน่วยงานรัฐประชาสัมพันธ์ผลสำเร็จของโครงการ
มีการนำประชาชนที่ได้รับผลดีของนโยบายมานำเสนอ
อีกด้านหนึ่ง
สื่อมวลชน
ผู้จัดรายการต่าง
ๆ
ควรนำเสนอในด้านตรงข้ามด้วย
เช่น
นำเสนอผลกระทบทางลบและประชาชนที่ได้รับผลเสียจากนโยบาย
การเปิดโอกาสให้นักวิชาการวิเคราะห์วิพากษ์โครงการต่าง
ๆ
ของรัฐบาลผ่านทางสื่อวิทยุโทรทัศน์ให้ทั่วถึง
เพื่อนำเสนอความจริงที่เกิดขึ้นให้ครบถ้วนมากที่สุด
การนำเสนอ
“มุมมองอีกด้านหนึ่ง”
ของนโยบายรัฐบาล
จะช่วยเพิ่มข้อมูลที่ครบถ้วนทั้งสองด้าน
เพื่อประชาชนจะมีโอกาสตัดสินใจเลือกตัวแทนเข้ามาบริหารประเทศอย่างไม่ถูกปิดหูปิดตาให้รับรู้เพียงครึ่ง
ๆ กลาง ๆ
จากการฉวยประโยชน์ประชาสัมพันธ์ผลงานทางการเมืองของพรรครัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว
|