Go www.kriengsak.com

ประวัติ

ครอบครัว

งานวิชาการ

กิจกรรม

Press

Contact us

ค้นหา

 

ขอคิดอย่างสร้างสรรค์

จัดระเบียบผู้ป่วยโรคจิต…ล้อมคอกก่อนวัวหาย
Organizing our Care for the Psychologically troubled in Thailand

 

15 กันยายน 2548

 

เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก     

กรณีมือมีดสาวโรคจิตบุกเดี่ยวจ้วงแทงนักเรียนโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ภายในโรงเรียน นับเป็นข่าวสะเทือนขวัญที่ทั้งผู้เป็นพ่อแม่และคนในสังคมต่างไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับทั้งตนเองหรือคนที่ตนรัก 

จากสถิติพบว่ามีผู้ที่ป่วยเป็นโรคจิตประเภทต่าง ๆ เป็นจำนวนมากกว่า
6 แสนคนและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นทุกปี บุคคลเหล่านี้ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับคนปกติโดยที่เราอาจไม่สามารถจำแนกได้เลย นั่นหมายความว่า เหตุร้ายที่บุคคลเหล่านี้ก่อขึ้นอาจจะเกิดขึ้นอีกเมื่อใดก็ได้  

ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราควรจะล้อมคอกก่อนวัวหาย โดยการ
“จัดระเบียบผู้ป่วยโรคจิตในประเทศไทย” ให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันทางสังคมให้แก่ 1.ผู้ป่วยโรคจิต ที่จะได้รับหลักประกันในด้านการดูแลรักษาเป็นอย่างดีตามหลักการแพทยและ 2. ประชาชนในสังคม ที่จะได้รับหลักประกันในด้านความปลอดภัยในการดำเนินชีวิต

ผมขอเสนอว่า ควรมีกลไกการจัดระเบียบผู้ป่วยโรคจิตในประเทศไทยโดยอาจเริ่มจาก  

การขึ้นทะเบียนผู้ป่วยโรคจิตทั้งหมดในประเทศไทย ทั้งจากครอบครัวผู้ป่วย โรงพยาบาล โดยการเก็บข้อมูลทั้งในด้านประวัติส่วนตัว ภูมิลำเนา และประวัติทางการแพทย์จากโรงพยาบาลต่าง ๆ รวมทั้งขอความร่วมมือจากชุมชนที่มีผู้ป่วยเร่รอนอยู่ช่วยแจ้งข้อมูลเข้ามา เพื่อสามารถทราบสถานการณ์ผู้ป่วยโรคจิตทั้งหมดในประเทศไทย อันเป็นข้อมูลสำคัญในการกำหนดมาตรการการช่วยเหลือและแก้ปัญหาในขั้นตอนต่อไป 

การดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยโรคจิต
โดยแบ่งการรักษาไปตามชนิดอาการของผู้ป่วยโรคจิตประเภทต่าง ๆ การติดตามครอบครัวผู้ป่วยให้พาผู้ป่วยมารับการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการสร้างระบบสังคมสงเคราะห์ให้กับผู้ป่วยที่ยากไร้หรือไร้ญาติที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ที่เร่ร่อนอยู่ในชุมชนต่าง ๆ ให้ได้รับการรักษาพยาบาลและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างทั่วถึง   

เราทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งในสังคมนี้ร่วมกัน การกระทำของบุคคลหนึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อเนื่องกันไปสู่คนอื่น ๆ ในสังคมอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ความอ่อนแอป่วยไข้ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือจิตใจของบุคคลหนึ่งย่อมส่งผลกระทบไปสู่คนอื่น ๆ ในสังคมด้วยเช่นกัน ยังมีกลุ่มคนด้อยโอกาสอีกมากมายในสังคมที่ไม่ได้รับการเหลียวแลทั้งจากภาครัฐและประชาชน อาจด้วยความคิดที่ว่าธุระไม่ใช่  หรือเหตุผลในเรื่องกรรมเก่าที่เขาเหล่านั้นต้องรับไปอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้  หรือหากทำไปก็เป็นเพียงการแก้ปัญหาอย่างผักชีโรยหน้าไม่ได้ช่วยเหลืออย่างถึงที่สุดจริง ๆ ปรากฏการณ์หญิงโรคจิตแทงเด็กนักเรียนนี้จึงเป็นเพียงภาพสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาจริงในสังคม  ปัญหาที่ถูกซุกไว้ใต้พรมอันเกิดจากทิศทางการพัฒนาประเทศในยุคนี้ที่มองว่าการพัฒนาทางวัตถุนั้นสำคัญมากกว่าการพัฒนาด้านจิตใจ

หากรัฐบาลยังไม่ให้ความสำคัญกับคนกลุ่มนี้มากเพียงพอผมเชื่อว่าเหตุการณ์คล้าย ๆ กันนี้จะเกิดขึ้นมาอีกอย่างแน่นอน