Go www.kriengsak.com

ประวัติ

ครอบครัว

งานวิชาการ

กิจกรรม

Press

Contact us

ค้นหา

 

ขอคิดอย่างสร้างสรรค์

รีดภาษีบาปเพื่อเยียวยาใคร ?
Cigarette Tax
 

 

12 ธันวาคม 2548

 

เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก

รัฐบาลประกาศขึ้นภาษีบุหรี่อีกร้อยละ 4 เกือบเต็มเพดาน เพื่อหวังลดจำนวนคนสูบบุหรี่ ส่งผลให้ราคาขายบุหรี่เพิ่มขึ้นอีกซองละ 7-8 บาท และคาดว่าจะทำให้ผู้บริโภคลดการบริโภคบุหรี่ร้อยละ 20 โดยราคาใหม่นี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2548 และย้ำว่าไม่ต้องการเก็บรายได้เพิ่ม แต่ต้องการรักษาสุขภาพประชาชน และลดงบฯในการเยียวยาสุขภาพของประชาชน

ผมเชื่อว่าการที่รัฐบาลประกาศขึ้นภาษีบุหรี่นี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการรักษาสุขภาพของประชาชน แต่วาระแท้จริงที่ซ่อนอยู่น่าจะเป็นการหารายได้เพื่อลดแรงกดดันทางการคลังมากกว่า

หากสังเกตพฤติกรรมของรัฐบาลที่ผ่านมาพบว่า รัฐบาลใช้จ่ายเงินเกินตัวอย่างเห็นได้ชัด จากการขออนุมัติงบกลางปี 48 เพิ่มเติมถึง 5 หมื่นล้านบาท และการใช้จ่ายเงินอย่างสุ่มเสี่ยงของรัฐบาลที่เอาใจประชาชน โดยไม่คำนึงถึงวินัยทางการคลัง เช่น นโยบายลดหนี้ภาคประชาชน โครงการ SML และโครงการตระกูลเอื้ออาทรทั้งหลาย ฯลฯ

แม้รัฐบาลบอกว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังไปได้ดี รัฐบาลเก็บภาษีได้เข้าเป้า แต่ไม่อาจทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจได้ เพราะการออกตั๋วเงินคลังกว่า 8 หมื่นล้านบาท ทั้ง ๆ ที่มียอดสะสมอยู่แล้ว 1.7 แสนล้านบาท สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่ารัฐบาลเงินกำลังขาดมือ หลายฝ่ายจึงมีข้อกังขาว่าเงินคงการคลังของประเทศเหลือน้อยเต็มทีและกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤติแล้ว ดังนั้นรัฐบาลจึงพยายามหารายได้จากทุกทาง เพื่อมาอุดช่องว่างระหว่างรายรับและรายจ่าย

การปรับขึ้นภาษีบุหรี่ หรือภาษีบาปอีกร้อยละ 4 จะทำให้มีรายได้เพิ่มประมาณ 3-4 พันล้าน ในภาวะที่รัฐบาลถังแตกเช่นนี้ จึงน่าสงสัยว่ารัฐบาลต้องการเก็บรายได้มากกว่ารักษาสุขภาพประชาชน และหากพิจารณาเหตุผลที่รัฐบาลให้เหตุผลว่า เพื่อประหยัดงบฯในการเยียวยารักษาสุขภาพประชาชน และความตั้งใจที่จะขึ้นภาษีจากสินค้าฟุ่มเฟือยอีก 20 รายการแบบเต็มเพดาน ยิ่งยืนยันว่า รัฐบาลกำลังมีปัญหาและต้องการลดแรงกดดันทางการคลัง

ยิ่งไปกว่านั้น หากพิจารณาด้วยแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ การขึ้นภาษีบุหรี่ซึ่งทำให้ราคาบุหรี่เพิ่มขึ้น ไม่ทำให้คนสูบบุหรี่ลดลงมากเท่าใดนัก เพราะบุหรี่เป็นสินค้าจำเป็นสำหรับคนที่ติดบุหรี่ คุณสมบัติของสินค้าจำเป็น คือ แม้ราคาสินค้านั้นจะเพิ่มขึ้นมาก แต่การบริโภคจะลดลงไม่มากนัก มาตรการขึ้นภาษีจึงไม่มีประสิทธิภาพมากนักในการลดการบริโภคบุหรี่

นอกจากนี้ รัฐบาลยังไม่ได้พูดอย่างชัดเจนว่า รายได้ที่จัดเก็บได้เพิ่มขึ้นนี้จะนำไปสนับสนุนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.) หรือเอาเงินไปสนับสนุนโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคทั้งหมดหรือไม่ ซึ่งหากทำเช่นนั้นก็เป็นการลดภาระงบประมาณจากส่วนปกติ ทำให้แรงกดดันฐานะการคลังภาพรวมลดลงได้ โดยมีภาพลักษณ์ดูดี แต่อย่างไรก็ตาม จึงน่าจับตามองว่าอาจจะมีการนำเงินไปใช้ในโครงการอื่น ๆ ด้วย

ทั้งนี้ผมไม่ได้แสดงความไม่เห็นด้วยในการขึ้นภาษีบาป เพราะผมไม่เห็นด้วยให้คนสูบบุหรี่ และในความเป็นจริงการขึ้นภาษีนี้น่าจะมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย แต่ผมเพียงตั้งข้อสังเกตว่ามาตรการนี้เป็นตัวสะท้อนว่า สถานะเงินคงคลังมีอาการง่อนแง่นจริง และการขึ้นภาษีครั้งนี้ รัฐบาลอาจไม่ได้นำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่แถลง แต่อาจนำไปใช้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ